สตูล - กระทรวงมหาดไทยเห็นชอบตั้งด่านผ่านแดนชั่วคราวบนเกาะหลีเป๊ะ เชื่อสามารถเพิ่มยอดนักท่องเที่ยว และช่วยลดปัญหาอาชญากรรมได้ เตรียยมนำเรื่องเข้าสู่ ครม.สัญญจรภาคใต้ เม.ย.นี้
วันนี้ (25 ม.ค.) นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางลงเกาะหลีเป๊ะเพื่อหารือแนวทางปฏิบัติการเปิดจุดผ่านแดนถาวรบนเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ระหว่างวันที่ 24-25 ม.ค.2556 ที่ห้องประชุมบันดาหยารีสอร์ท โดยการประชุมในครั้งนี้ มีด่านศุลกากรภาคที่ 4 ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรจังหวัด และนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทั้งกองทัพเรือภาคที่ 3 ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตรัง-สตูล และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ
โดยหลายฝ่ายเห็นด้วยกับการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวบริการด้านการท่องเที่ยวมากกว่าจุดผ่านแดนถาวร โดยเห็นว่าสามารถเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวจาก 300,000 คน ที่มีอยู่ให้เพิ่มขึ้นจากเกาะภูเก็ต กระบี่ ตรัง ให้ทะลักเข้ามาจ็อบหนังสือผ่านแดนไปยังเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียได้
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนเต็มที่ให้มีจุดผ่านแดนบริการนักท่องเที่ยวชั่วคราวบนเกาะหลีเป๊ะ เนื่องจากเห็นว่าเมื่อมีจุดผ่านแดนเจ้าหน้าที่ก็จะมีเพิ่มขึ้น และจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมที่เกิดกับนักท่องเที่ยวได้ รวมทั้งลดปัญหาประชากรแอบแฝง ซึ่งการเปิดจุดผ่านแดนกระทรวงมหาดไทยสามารถทำได้ในทันที แต่ก็ต้องนำเรื่องนี้เข้าปรึกษา รมต.เพื่อเห็นชอบอีกครั้ง หรืออาจจะนำเรื่องเข้าสู่ ครม.สัญจรภาคใต้ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ แต่จะพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุดในเดือน มี.ค.นี้ นักท่องเที่ยวที่ทะลักเป็นจำนวนมากหลังจากนี้เชื่อว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะสามารถจัดการเรื่องทรัพยากรที่ต้องสูญเสียหลังเพิ่มนักท่องเที่ยว และเรื่องปัญหาขยะได้อย่างแน่นอน
นายประยุทธ มณีโชติ ผอ.สนง.ศุลกากรภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมในห้องประชุมว่า ปัญหาสินค้าหนีภาษีมีการจับกุมในพื้นที่ชายแดนสตูลเป็นจำนวนมากในปี 2554 และปี 2555 จำนวน 330 คดี รวมมูลค่ากว่า 26 ล้านบาท ต้องยอมรับว่าพบสินค้าหลบหนีภาษีจำนวนมาก และพร้อมสนับสนุน แต่ขอให้มีการจัดสรรเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลสินค้าที่หลบหนีภาษีที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ส่วนนายจรัล ชื่นในธรรม ผอ.สนง.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตรัง-สตูล กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาสตูล 3 แสนคน เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 100% ทาง ททท.เองมองว่าควรมีการเสริมความรู้ให้ผู้ประกอบการโดยการเส้นทางจากทะเลขึ้นฝั่งที่มีทรัพยากรหลากหลาย เพื่อให้เป็นการกระจายนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุม และไม่กระจุกตัว เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว
ด้านนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รู้สึกดีใจที่ทางรัฐบาลได้เห็นคุณค่าของ จ.สตูล ซึ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ ชายแดน โดยขณะนี้ พยายามผลักดันและจัดระเบียบเกาะหลีเป๊ะไปมากพอสมควรแล้ว เช่น เรื่องทุ่นกันเขตจุดว่ายน้ำดำน้ำให้แก่นักท่องเที่ยวไว้เรียบร้อยแล้ว และกล้องวงจรปิด ขณะนี้ได้เตรียมงบประมาณในการอุดหนุน รวมทั้งกำลังตำรวจได้เพิ่มจาก 3 นาย เป็น 7 นาย และหากมีการเปิดด่านผ่านแดนขึ้น กำลังเจ้าหน้าที่ก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และต้องขอขอบคุณภาคเอกชน และผู้ประกอบการที่สนับสนุนพื้นที่ให้เป็นที่ตั้งจุดผ่านแดนชั่วคราว