ตรัง - พะยูน 100 กก. ถูกอวนปลากระเบนรัดจนตาย แล้วถูกตัดเขี้ยวเอาไปด้วย ที่บริเวณปากคลอง อ.กันตัง จ.ตรัง ท่ามกลางกระแสข่าวแก๊งล่าส่งขายเมืองนอกทำยาโด๊ป
วันนี้ (25 ม.ค.) นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต และชมรมประมงพื้นบ้าน เขตเลเสบ้าน เข้าตรวจสอบสภาพซากพะยูนที่นายสอแหละ ทิ้งหลี สมาชิกประมงพื้นบ้านเขตเลเสบ้านไปพบลอยตายขึ้นอืดอยู่ที่บริเวณปากคลองตะเป๊ะ หมู่ที่ 4 ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ขณะนำเรือออกไปจับสัตว์น้ำแล้วลากกลับขึ้นฝั่ง และแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ซากพะยูนตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี มีน้ำหนักประมาณ 100 กก. วัดความยาวได้ 230 ซม. และวัดรอบตัวได้ 170 ซม. โดยพบบาดแผลที่ปาก และตามลำตัว เนื่องจากถูกอวนปลากระเบนซึ่งเป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมายรัดเข้าจนแน่น แต่เป็นที่น่าแปลกเมื่อพบว่า มีร่องรอยของการถูกตัดเขี้ยวเอาไปด้วย
เบื้องต้น สันนิษฐานว่าพะยูนตัวดังกล่าวน่าจะพลัดหลงเข้าไปติดอวนปากระเบน แล้วพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากการพันธนาการ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนถูกอวนปลากระเบนรัดจนขาดอากาศหายใจ และตายในที่สุด แล้วถูกตัดเขี้ยวไป โดยคาดว่าน่าจะตายมาแล้วประมาณ 8 วัน เพราะเนื้อเริ่มเน่าเปื่อย และส่งกลิ่นเหม็นเน่า จึงได้ส่งซากไปพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
สำหรับพะยูนที่ตายลงตัวนี้ถือเป็นตัวแรกของปี 2556 หลังจากที่เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา พบพะยูนต้องตายลงจำนวนไม่น้อยกว่า 15 ตัว และมีบางตัวที่ได้สูญหายไปโดยไม่พบซาก ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องแก๊งล่าพะยูนส่งไปขายต่างประเทศเพื่อทำยาโด๊ป โดยเฉพาะเขี้ยวที่มีราคาในตลาดมืดสูงถึงชิ้นละ 1.5 หมื่นบาท อันแสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างๆ สำหรับการปกปักรักษาพะยูน สัตว์อนุรักษ์ชื่อดังของจังหวัดตรัง จนทำให้ยังคงพบการตายลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
