เพชรบุรี - ชาวประมงเมืองเพชรบุรี ยื่นเสนอจังหวัดอนุมัติประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากสาเหตุน้ำทะเลเสีย ส่งผลทำให้ “หอย” และ “ปลากะพง” ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ตาย เสียหายอย่างหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีน้ำทะเลเน่าเสียจนส่งผลกระทบให้สัตว์น้ำในทะเลที่มีทั้งปลากระเบนขนาดใหญ่ ปลาเล็กปลาน้อย และหอยแครง หอยแมลงภู่ ที่ชาวบ้านได้เลี้ยงไว้พากันตายยกครอก รวมถึงบ่อปลากะพงที่พบว่า มีปลากะพงตายยกบ่อเช่นกัน โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่พบว่า มีน้ำทะเลเน่าเสียทำให้ค่าน้ำต่ำลงค่าออกซิเจนในน้ำจึงไม่เพียงพอสำหรับสัตว์น้ำ ส่งผลให้สัตว์น้ำในทะเลในละแวกที่เกิดน้ำเสียตายทั้งหมด
นายชัยยศ สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลบางตะบูน เปิดเผยว่า โดยหลังจากพบปัญหา และมีการลงพื้นที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อรับฟังและตรวจดูสภาพพื้นที่เสียหายแล้ว ได้มีการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นประมงจังหวัดเพชรบุรี อำเภอบ้านแหลม ชลประทานจังหวัดเพชรบุรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และหาแนวทางเยียวยาแก้ไขความเดือนร้อนให้แก่ชาวประมงแล้ว
อีกทั้งมีการลงพื้นที่ของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี และทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยตอนบนจังหวัดสมุทรปราการ ก็ได้ลงตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล โดยมีการแบ่งเป็น 8 จุดในการตรวจคุณภาพน้ำทะเลทุกวันด้วย แต่ก็ยังพบว่า น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนต่ำกว่าปกติอยู่ที่ 0.2-0.3 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดได้ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นแท้จริงนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม จะต้องนำน้ำไปตรวจวัดค่าอย่างชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ ได้มีการทำหนังสือสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นยื่นเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีแล้ว เพื่อให้พิจารณาในการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งหากทางจังหวัดประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติก็จะสามารถนำงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยได้ในทันที
สำหรับน้ำทะเลในวันนี้ (15 พ.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้ามีน้ำทะเลหนุนสูง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าน้ำเกิด จึงทำให้น้ำที่หนุนเช้ามาดันน้ำที่เน่าเสียออกไปทำให้สภาพน้ำวันนี้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ภาพรวมแล้วยังเน่าเสียอยู่
สำหรับพื้นที่อำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี มีฟาร์มเลี้ยงหอยแครง และหอยแมลงภู่ที่ขึ้นทะเบียนไว้จำนวน 881 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยง 14,000 ไร่ แยกเป็นหอยแครง 464 ราย และหอยแมลงภู่ 417 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ได้รับผลกระทบทั้งหมดคือ หอยที่เลี้ยงไว้ตายยกครอก
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีน้ำทะเลเน่าเสียจนส่งผลกระทบให้สัตว์น้ำในทะเลที่มีทั้งปลากระเบนขนาดใหญ่ ปลาเล็กปลาน้อย และหอยแครง หอยแมลงภู่ ที่ชาวบ้านได้เลี้ยงไว้พากันตายยกครอก รวมถึงบ่อปลากะพงที่พบว่า มีปลากะพงตายยกบ่อเช่นกัน โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่พบว่า มีน้ำทะเลเน่าเสียทำให้ค่าน้ำต่ำลงค่าออกซิเจนในน้ำจึงไม่เพียงพอสำหรับสัตว์น้ำ ส่งผลให้สัตว์น้ำในทะเลในละแวกที่เกิดน้ำเสียตายทั้งหมด
นายชัยยศ สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลบางตะบูน เปิดเผยว่า โดยหลังจากพบปัญหา และมีการลงพื้นที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อรับฟังและตรวจดูสภาพพื้นที่เสียหายแล้ว ได้มีการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นประมงจังหวัดเพชรบุรี อำเภอบ้านแหลม ชลประทานจังหวัดเพชรบุรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และหาแนวทางเยียวยาแก้ไขความเดือนร้อนให้แก่ชาวประมงแล้ว
อีกทั้งมีการลงพื้นที่ของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี และทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยตอนบนจังหวัดสมุทรปราการ ก็ได้ลงตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล โดยมีการแบ่งเป็น 8 จุดในการตรวจคุณภาพน้ำทะเลทุกวันด้วย แต่ก็ยังพบว่า น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนต่ำกว่าปกติอยู่ที่ 0.2-0.3 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดได้ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นแท้จริงนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม จะต้องนำน้ำไปตรวจวัดค่าอย่างชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ ได้มีการทำหนังสือสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นยื่นเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีแล้ว เพื่อให้พิจารณาในการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งหากทางจังหวัดประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติก็จะสามารถนำงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยได้ในทันที
สำหรับน้ำทะเลในวันนี้ (15 พ.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้ามีน้ำทะเลหนุนสูง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าน้ำเกิด จึงทำให้น้ำที่หนุนเช้ามาดันน้ำที่เน่าเสียออกไปทำให้สภาพน้ำวันนี้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ภาพรวมแล้วยังเน่าเสียอยู่
สำหรับพื้นที่อำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี มีฟาร์มเลี้ยงหอยแครง และหอยแมลงภู่ที่ขึ้นทะเบียนไว้จำนวน 881 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยง 14,000 ไร่ แยกเป็นหอยแครง 464 ราย และหอยแมลงภู่ 417 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ได้รับผลกระทบทั้งหมดคือ หอยที่เลี้ยงไว้ตายยกครอก
