xs
xsm
sm
md
lg

รังนกปากพนังราคาดิ่งเหวต่ำสุดในประวัติศาสตร์ หลังจีนระงับการนำเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอนโดฯ นกนับเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างงามให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งทำรายได้โดยไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ โดยเฉพาะการลงทุนสร้างคอนโดฯ ให้นกใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จำนวนเป็นพันล้านบาท มูลค่าของรังนกที่ได้ในแต่ละปีย่อมมหาศาล

คอนโดฯ นกอีแอ่น เป็นการลงทุนสร้างเพื่อเปิดโอกาสให้นกอีแอ่นเข้าไปทำรัง หลังจากนั้นเจ้าของคอนโดฯ จะเข้าไปเก็บเกี่ยวเอารังนกที่เป็นผลผลิตมาจำหน่าย นับเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างงามให้แก่ผู้ประกอบการ ที่สำคัญ เป็นรังนกที่ไม่ต้องเสียค่าภาคหลวง หรือค่าสัมปทานให้แก่รัฐ เป็นรังนกอีแอ่นที่อยู่ในบ้านพักอาศัย และมีพัฒนาการดัดแปลงเป็นคอนโดฯ นก เปิดช่องให้นกเข้าไปทำรัง แล้วจึงเก็บเอาผลผลิตไปจำหน่ายในราคาสูงตามความต้องการของตลาดที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ เฉพาะการลงทุนสร้างคอนโดฯ ให้นกอยู่ใน อ.ปากพนัง นับเป็นพันล้านบาทไปแล้ว ดังนั้น มูลค่าของรังนกที่ได้ในแต่ละปีย่อมมหาศาล

ชาวจีนเชื่อว่า การบริโภครังนกส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ และสร้างความสมดุลในร่างกาย ประเทศจีนจึงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของรังนกจากพื้นที่นี้ แต่ขณะนี้ กำลังประสบปัญหาจากการส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งตรวจพบสารพิษจากรังนกชนิดสีแดงที่มาจากประเทศในแถบเอเชียประเทศหนึ่ง โดยใช้สารเคมีทำให้รังนกเปลี่ยนสีเพื่อเพิ่มมูลค่า แต่กลับเป็นสารพิษที่ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนถึงขั้นเสียชีวิต

“เป็นที่ทราบกันในวงการผู้ค้ารังนกในประเทศไทยขณะนี้ว่า สถาบัน CQSIQ. ของจีนได้ตรวจพบสารไนเตรตเกินมาตรฐานจากรังนกในประเทศหนึ่ง แต่ไม่ใช่ประเทศไทย คนจีนบริโภคแล้วถึงตายไปหลายคน ทางจีนจึงสั่งห้ามนำเข้ารังนกไปยังประเทศจีน รังนกจึงไม่สามารถส่งไปขายในประเทศจีนได้ ด่านทุกด่านคนจีนเคยถือรังนกกลับประเทศได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว ร้านค้าทั่วไปขายไม่ได้ เว้นแต่ร้านที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน เบื้องต้นนั้น ขอให้ทางรัฐบาลไทยไปเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ขณะที่ผู้ประกอบการค้ารังนกของประเทศไทยโดยเฉพาะรังนกจากคอนโดฯ นกอีแอ่นต้องเปิดเผยข้อมูลของตัวเองกันมากขึ้น” กมลศักดิ์ เลิศไพบูลย์ ผู้ประกอบการค้ารังนกรายสำคัญของปากพนังกล่าว

ด้านมิติการแก้ปัญหาเรื่องนี้ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช บอกว่า มีการหารือการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าประเทศจีนได้ออกประกาศห้ามนำเข้ารังนกทุกชนิดจากทุกประเทศในแถบเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย เพราะหน่วยงานตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพสินค้าของรัฐบาลจีนตรวจพบสารก่อโรคมะเร็งปนเปื้อนอยู่ในรังนกสีแดงที่นำเข้ามาจากประเทศแถบทวีปเอเชีย ทำให้รังนกในประเทศไทยค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก และจากข่าวดังกล่าว ยังส่งผลกระทบต่อราคารังนกอีกด้วย ทำให้ขณะนี้ราคารังนกตกต่ำมากเป็นประวัติการณ์ โดยลดลงถึงกิโลกรัมละ 2-3 หมื่นบาท

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า แต่ละปีจีนนำเข้ารังนกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะประชาชนในประเทศจีนนิยมบริโภครังนกเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดการส่งออกรังนกกว่า 1 แสนกิโลกรัม ซึ่งส่วนใหญ่รังนกที่ส่งออกเป็นรังนกที่ผลิตมาจากพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ อ.ปากพนัง เป็นแหล่งผลิต และแหล่งเลี้ยงนกอีแอ่นที่สำคัญของประเทศไทยที่ผ่านมา การเลี้ยงนกนางแอ่นเพื่อเก็บรังไปจำหน่ายยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล และควบคุมอย่างจริงจัง เป็นการผลิตกันเองของผู้ประกอบการ รวมทั้งไม่มีมาตรการใดที่จะสร้างความมั่นใจให้ประประเทศจีนในการนำเข้ารังนกจากประเทศไทยเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงนก และยังกระทบถึงชื่อเสียงของสินค้าจากประเทศไทย ทั้งๆ ที่ปัญหาการตรวจพบสารดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจากการส่งออกของรังนกจากประเทศไทย

สำหรับการแก้ปัญหา ขณะนี้ได้หารือมาตรการที่จะทำให้ประเทศจีนมั่นใจรังนกในประเทศไทย และอนุญาตให้ประเทศไทยส่งออกรังนกได้เหมือนเดิม ซึ่งต้องเร่งเจรจา และจากการประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการรังนก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีผลสรุปเบื้องต้น และกำหนดมาตรการหลักไว้ 3 ข้อ คือ

1.ต้องมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการบ้านรังนก

2.ต้องจัดสถานที่เพื่อรวบรวมรังนกอย่างเป็นทางการ โดยจะส่งออกมาทำความสะอาดตามมาตรฐานที่ประเทศนำเข้ากำหนด หรือเรียกว่า คอลเล็กติ้งเซ็นเตอร์

3.กำหนดบรรจุภัณฑ์ที่จะส่งออกรังนก โดยจะกำหนดให้เป็นรูปแบบเดียวกัน

จากนั้นทางการ หรือหน่วยงานที่ประเทศจีนกำหนดจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสารปนเปื้อนในรังนก ตรวจสอบคุณภาพรังนกที่ส่งออก เมื่อผ่านขั้นตอนแล้วทางหน่วยงานที่รับผิดชอบจะออกใบรับรองคุณภาพรังนกที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ประเทศจีนกำหนด และนี่คือสิ่งที่พยายามเร่งดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากปัญหานี้เกิดขึ้นส่งผลให้ราคารังนกตกต่ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการขายส่งเดิมอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อกิโลกรัม ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2-1.5 หมื่นบาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น และยังหาผู้ซื้อได้ยาก แต่นับเป็นโอกาสที่สำคัญ และนับเป็นครั้งแรกในการจัดระเบียบ และปฏิรูประบบการผลิตรังนกและแผนการควบคุมคุณภาพ เพื่อรักษาชื่อเสียง และรักษาตลาดรังนกอีแอ่นที่ได้จากการผลิตในคอนโดฯ นกของ อ.ปากพนัง ครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากธุรกิจนี้เฟื่องฟูมาตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา และจากเม็ดเงินจำนวนมหาศาล สรรพากร หรือหน่วยงานจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ แต่ละหน่วยงานจะมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลได้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน

 
 







กำลังโหลดความคิดเห็น