ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บุคลากร “สถาบันทักษิณคดีศึกษา” ร่อน จม.เปิดผนึกจี้ประธาน และ กก.สรรหา ผอ.คนใหม่ ชี้ให้แจงต่อประชาคม ม.ทักษิณ ถึงสาเหตุที่ให้ “สาวิตรี สัตยายุทย์” ผ่านฉลุย ซัดกระบวนการไม่โปร่งใส ส่วนคนที่ได้มีพฤติกรรมไม่สง่างาม แถมทำตัวใกล้ชิดเป็นพิเศษกับ “อธิการบดี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ม.ค.) ได้มีกลุ่มบุคคลที่รวมตัวกันในนาม “บุคลากรสถาบันทักษิณคดีศึกษา” หน่วยงานในสังกัดมหาวิทยาลัยทักษิณ ได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกเรื่อง “การสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา” ส่งไปรษณีย์ถึง “ประธานและคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา” แล้วได้ส่งถึงสื่อมวลชนต่างๆ ด้วย โดยจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวลงวันที่ 21 ม.ค.2556 ซึ่งมีเนื้อหาสาระสำคัญ ดังนี้
ตามที่ท่าน และคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา ได้พิจารณาเลือก น.ส.สาวิตรี สัตยายุทย์ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ เป็นผู้มีความเหมาะสมกับการดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา มากกว่าผู้เข้ารับการสรรหาคนอื่นๆ อีก 4 คน เป็นการตัดสินใจที่สร้างความแปลกใจแก่ประชาคมสถาบันทักษิณคดีศึกษา และแวดวงวิชาการด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก
ประการแรก บุคคลที่ได้รับการพิจารณาไม่ได้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นตามที่กรรมการได้วางไว้ เช่น การมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นผลงานทางวิชาการ งานวิจัย งานเครือข่าย งานสัมพันธ์ชุมชน หรือการได้รับเชิญเป็นวิทยากรให้บริการทางวิชาการต่างๆ ตามภารกิจของสถาบันทักษิณคดีศึกษา
ประการที่สอง บุคคลที่ได้รับการพิจารณามีพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่สง่างาม จนเป็นที่รับรู้ทั่วไป ทั้งภายใน และภายนอกสถาบันฯ อันเป็นความประพฤติที่ผู้ยึดมั่นในจารีต และศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่อาจจะยอมรับได้ เป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่สถาบันทักษิณคดีศึกษา อันเป็นสถาบันที่เคยได้รับรางวัลเสริมสร้างเอกลักษณ์ชาติ และเป็นการสวนกระแสกับความคาดหวังของประชาคมทุกภาคส่วน
ประการที่สาม กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณครั้งนี้ ขาดความชอบธรรม ไม่โปร่งใส ไม่เที่ยงธรรม และไม่ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะกรรมการที่มาจากสภามหาวิทยาลัยทักษิณ เพราะผู้ได้รับการสรรหาประกาศตัวตั้งแต่ยังไม่มีการรับสมัครว่า ตัวเองจะได้เป็นผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษาอย่างแน่นอน เพราะได้รับการสนับสนุนจากกรรมการสรรหาผู้ใกล้ชิดสนิทสนม (ตามที่ประชาคมมหาวิทยาลัยทักษิณทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นใคร) และถ้าไม่มั่นใจ ตนจะไม่สมัคร ถ้าสมัครแล้วต้องได้ มีการตั้งทีมงานทั้งรองผู้อำนวยการ และหัวหน้ากลุ่มภารกิจใหม่เรียบร้อยมานานแล้ว
และในวันที่คณะกรรมการสรรหาไปรับฟังความคิดเห็นของประชาคมสถาบันทักษิณ ก็ได้รับการต้อนรับจากบุคคลคนนี้เป็นอย่างดี ทั้งในสถาบันฯ และข้างนอก นอกจากนั้น ในวันแสดงวิสัยทัศน์บุคคลที่ได้รับการสรรหา ถือวิสาสะนั่งพักรอการแสดงวิสัยทัศน์ในห้องทำงานของอธิการบดี
รวมทั้งมีข่าวคราวเป็นระลอกๆ มาโดยตลอด ถึงความมั่นใจในการได้รับการสรรหาของบุคคลดังกล่าว เช่น มีการเรียกกันแบบทีเล่นทีจริงต่อหน้าอธิการบดี ผู้เป็นกรรมการสรรหาคนหนึ่ง และเป็นผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
พฤติกรรมดังกล่าวของทั้งกรรมการสรรหา และผู้เข้ารับการสรรหา สร้างความมัวหมอง ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรมให้แก่กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการครั้งนี้ อันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย เป็นประวัติศาสตร์ที่ด่างพร้อยให้แก่องค์กรที่มีผู้คนมากมายทุ่มเทเสียสละสร้างสรรค์กันมาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงเสด็จมาเป็นขวัญมิ่งมงคลแก่พสกนิกร และบุคลากรของสถาบันแห่งนี้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น พวกเราผู้ได้รับผลกระทบจากการสรรหาที่ไม่ชอบธรรม และได้บุคคลที่มีความมัวหมอง ไม่สง่างาม ไม่สมฐานะของสถาบันที่จะทำหน้าที่ในการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติ ภายใต้การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และหลักธรรมาภิบาล
จึงขอเรียกร้องให้กรรมการสรรหาทบทวนการสรรหาใหม่ และหากยังยืนยันสนับสนุนบุคคลผู้นี้ต่อไป ขอความกรุณาให้คณะกรรมการสรรหามาชี้แจงหลักการเหตุผลต่อประชาคมมหาวิทยาลัยทักษิณ โดยเฉพาะบุคลากรสถาบันทักษิณคดีศึกษาว่า บุคคลผู้นี้มีความเหมาะสมกว่าคนอื่นที่คณะกรรมการไม่พิจารณาในการสรรหาครั้งนี้อย่างไร
หวังว่าคณะกรรมการสรรหาที่เคยประกาศตนว่า โปร่งใส ไม่มีใครอยู่ในใจมาก่อน ไม่ตั้งธง จะยินดีทำเรื่องนี้ให้ขาวสะอาด ปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย เพื่อแสดงถึงความมีวุฒิภาวะ และคุณธรรม สมกับที่ได้รับเกียรติให้ทำภารกิจที่มีเกียรติที่เรียกว่า “การสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา” ในครั้งนี้