กกต.ด้านการมีส่วนร่วม ยันคุณสมบัติพร้อม กก.สรรหาไม่ขัด แต่ปัดตอบ โดน “พงศ์เทพ” อ้างเปรียบเคส รมต.สำนักนายกฯ ชี้ กม.ให้หลังพ้นผิด 5 ปี แต่แค่รอลงอาญายังไม่ได้รับโทษ มึนไม่รู้เข้า กม.ล้างมลทินหรือไม่ อ้างแค่เรื่องสมมติ
วันนี้ (2 พ.ย.) นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่านายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติการรัฐมนตรี โดยเทียบเคียงได้กับนายวิสุทธิ์ที่ได้รับการสรรหาให้เป็น กกต.ว่า ตนไม่ได้ฟังหรืออ่านที่นายพงศ์เทพมีความเห็น รวมทั้งไม่ได้ติดตามคดีของนายวราเทพว่ามีรายละเอียดอย่างไร จึงไม่สามารถพูดเรื่องของคนอื่นได้ พูดได้แต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น ซึ่งตอนที่เข้ารับการสรรหาเป็น กกต.นั้น ส่วนตัวเชื่อว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่ได้ถูกกฎหมายห้ามมิให้เข้ารับการสรรหา และคณะกรรมการสรรหามีการพิจารณาประเด็นนี้อย่างไรก็ไม่ทราบ เนื่องจากตอนที่ให้ไปแสดงวิสัยทัศน์ก็ไปนั่งรออยู่ 3 ชั่วโมง คณะกรรมการสรรหาก็ไม่ได้เชิญไปสอบถาม หรือให้มีความเห็นในเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อคณะกรรมการสรรหาเสนอชื่อตนไป ที่ประชุมวุฒิสภาก็มีมติเลือก และมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กกต.เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 52
เมื่อถามว่าคุณสมบัติการเป็น กกต.ตามที่กฎหมายกำหนดในรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (5) นั้นหมายความว่าจะเป็น กกต.ได้ ต้องพ้นโทษจำคุกมาเกินกว่ากว่า 5 ปีก่อนได้รับแต่งตั้ง นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ก็ตนไม่ได้ถูกจำคุก ก็ไม่ได้พ้นโทษ เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รอลงอาญา 2 ปี แล้วจะนับระยะเวลาพ้นโทษได้อย่างไร ถึงได้บอกว่าตอนที่ไปสมัครเชื่อว่าตนเองมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อถามต่อว่า ที่ได้รับการสรรหามาเป็น กกต.ไม่ใช่เพราะว่าโทษจำคุก 2 ปี และรอลงอาญา 2 ปี ได้รับการล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน 2550 หรือ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ก็ไม่รู้ เพราะบางคนก็บอกว่า พ.ร.บ.ล้างมลทินล้างแต่โทษ ไม่ล้างความผิด แต่ถ้าถามตนก็จะบอกว่ามันเป็นเรื่องสมมติทั้งนั้น และไม่ทราบว่าคณะกรรมการสรรหารวมถึงที่ประชุมวุฒิสภาในขณะนั้นฯ พิจารณาอย่างไร แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 48 และครบการรอการลงโทษ (รอลงอาญา) 2 ปีในวันที่ 25 พ.ค. 50 ซึ่ง พ.ร.บ.ล้างมลทิน 50 มีผลใช้บังคับในวันที่ 5 ธ.ค. 50 ซึ่งตนมาสมัครเข้ารับการสรรหาเป็น กกต.ในเดือน มี.ค. 52
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่นายพงศ์เทพมองว่าปัญหาคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายวราเทพเทียบเคียงได้กับนายวิสุทธิ์นั้น น่าจะเป็นกรณีที่นายวิสุทธิ์ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่ามีความผิดฐานออกระเบียบขึ้นค่าตอบแทนตนเองขณะเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยพิพากษาให้จำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี แต่ก็ยังคงได้รับการคัดเลือกเป็น กกต. ซึ่งการจะเข้ารับการสรรหาเป็น กกต.นั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 230 (3) ประกอบมาตรา 205 (4) และมาตรา 102 กำหนดให้ กกต.ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม คือ (5) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีก่อนได้รับการคัดเลือก