ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สื่อมวลชนจากสำนักข่าวต่างประเทศให้ความสนใจลงพื้นที่ทำข่าวปัญหาของชาวโรฮิงยาที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการไทยเกือบ 900 คน บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา
เมื่อเวลา14.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทีมข่าวจากสำนักข่าว CCTV ทางช่อง 9 ของจีน ให้ความสนใจลงพื้นที่ทำข่าวปัญหาของชาวโรฮิงญา ที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการไทย ระหว่างถูกกักตัวอยู่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เกือบ 900 คน เพื่อติดตามสภาพชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างที่ยังคงถูกควบคุมตัว แนวทางการช่วยเหลือ และความคืบหน้าทางคดี ซึ่งที่ สภ.หาดใหญ่ มีชาวโรฮิงญาถูกควบคุมตัวอยู่ 20 คน
โดยมี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และ พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ เพ็ชรหนองชุม รอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่ ชี้แจงรายละเอียดในทางคดี และการดูแลของทางการไทย เพื่อให้สื่อต่างประเทศได้เข้าใจปัญหา และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง โดยในทางคดี ชาวโรฮิงญาทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และตำรวจได้ให้ความสำคัญกับการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 3 คน และจับกุมผู้นำพา และผู้ให้ที่พักพิงไปแล้ว 10 คน พร้อมกับย้ำว่า ทางการไทยได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามหลักมนุษยธรรม ส่วนจะผลักดันกลับประเทศ หรือส่งไปยังประเทศที่ 3 นั้น เป็นเรื่องของทางรัฐบาลไทย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างหาทางออกร่วมกับอีกหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศสนใจ และสัมภาษณ์เจาะลึกชาวโรฮิงญา คือ สาเหตุที่ต้องหลบหนีออกจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า เส้นทางการเดินทาง และจุดหมายปลายทางที่จะไป ซึ่งตัวแทนชาวโรฮิงญาบอกว่า ไม่สามารถอยู่ในพม่าได้เพราะถูกกดขี่ข่มเหง ไม่มีงานทำ และไม่มีทางสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม จึงพากันเดินทางมาทางเรือในฝั่งอันดามัน และต่างยืนกรานว่า ยอมตายหากถูกส่งกลับไปประเทศพม่า และจะขอลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3 และบอกว่า ไทยเป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น
ขณะที่ทีมแพทย์ และพยาบาลของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้เข้าตรวจสุขภาพของชาวโรฮิงญาเพิ่มเติมที่ สภ.หาดใหญ่ ซึ่งพบว่า ส่วนใหญ่มีอาการปวดหัว และปวดเมื่อยตามร่างกาย ขณะที่ผลการตรวจเลือดจะออกมาในวันจันทร์นี้ว่ามีเชื่อโรคติดต่อร้ายแรง เช่น อหิวาต์ มาลาเรีีย หรือไม่