ตรัง - ร้านโกปี๊ และร้านติ่มซำ แหล่งพบปะของนักดื่มน้ำชา-กาแฟ และอาหารเช้าชื่อดังเมืองตรัง หวั่นผลกระทบจากข้าวของแพง อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท อยากให้ทางรัฐบาลเข้ามาดูแลปัญหาในส่วนนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ
นายสุธรรม เศรษฐพิศาล เจ้าของร้านกาแฟสวนจันทน์ ในฐานะรองประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการร้านกาแฟ หรือร้านโกปี๊เมืองตรัง ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการต่อการรับมือค่าแรงที่ปรับขึ้นเป็นวันละ 300 บาท เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีค่าแรงอยู่ในระดับที่สูงอยู่แล้ว และมีลูกจ้างอยู่จำนวนไม่มาก ประมาณร้านละ 15-30 คน หากต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบมาก เนื่องจากเป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ ในรูปแบบส่วนตัว หรือในครอบครัวกันเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการร้านกาแฟ หรือร้านโกปี๊เมืองตรัง ต้องเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดหลังจากนี้ โดยเฉพาะเมื่อผ่านพ้นเดือนแรกของการบังคับใช้กฎหมายไปแล้วก็คือ ผลกระทบทางอ้อมที่จะมาจากราคาต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นตามค่าแรง โดยเฉพาะวัตถุดิบในการผลิตน้ำชา กาแฟ ขนม หรือติ่มซำ ซึ่งหากมีการทยอยปรับขึ้นก็คงพอที่จะรับมือได้ไหว แต่หากมีการปรับขึ้นแบบก้าวกระโดดเหมือนค่าแรง ผู้ประกอบการก็คงเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างยากลำบาก และต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อความอยู่รอด
ด้านนายวิบูลย์ เจริญศิริสุนทร เจ้าของร้านกันตังติ่มซำ ในฐานะผู้ประกอบการร้านอาหารเช้าชื่อดังของจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สิ่งที่ทางผู้ประกอบการรู้สึกกังวลไม่ใช่ปัญหาในเรื่องของการปรับขึ้นค่าแรง แต่เป็นห่วงในเรื่องของวัตถุดิบ หรือข้าวของที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นตาม จนส่งผลกระทบมาถึงต้นทุนในการผลิตอาหาร และท้ายสุด ก็จะเกิดผลต่อเนื่องไปถึงประชาชนผู้บริโภค เนื่องจากผู้ประกอบการจำต้องปรับขึ้นราคาอาหารเพื่อความอยู่รอด จึงอยากให้ทางรัฐบาลรีบเร่งเข้ามาดูแลปัญหาในส่วนนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ
