ตรัง - ปธ.กมธ.ตร. เผย 25 ธ.ค.นี้ ครบ 7 วัน ที่ ปชป.ยื่นคำขาดให้ ตร.จับคนร้ายที่ดักตีหัวราเมศให้ได้ หากไม่คืบ เตรียมร่อนหนังสือเชิญ ผบ.ตร.-ผบช.น.มาให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการตำรวจ
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรค ปชป. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษก และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกดักลอบทำร้ายบริเวณหน้าที่พักย่านบางนา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้กำลังรอรายงานผลความคืบหน้าสรุปสำนวนของคดีอยู่ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ หากยังไม่มีความคืบหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร จำเป็นต้องทำหนังสือเชิญ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจในเร็ววันนี้
ส่วนพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอยู่ในขณะนี้ จะมากพอที่สามารถจับคนร้ายได้หรือไม่นั้น นายสมชายกล่าวว่า ได้ทราบข่าวจาก พล.ต.อ.อดุลย์ ว่า ภายใน 3-4 วันนี้ น่าจะจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้ แต่จากการติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องตนยังมองไม่เห็นวี่แววดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องไปสืบสวนหารายละเอียดมาให้ได้
ซึ่งขณะนี้ทราบมาว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งชุดสืบสวน 3 ชุดลงพื้นที่หาข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหากตั้งใจค้นหาพยานหลักฐานจริง ก็ไม่มีเรื่องไหนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจะทำไม่ได้ แต่ที่กังวลก็คือ จะเป็นการทำงานแค่ลูบหน้าปะจมูกหรือไม่
เพราะขณะนี้ สังคมกำลังจับตามองการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะทำจริงจังหรือไม่ สำหรับประเด็นการลอบทำร้าย นายราเมศ นั้น นายสมชายกล่าวว่า ตนยังคงให้น้ำหนักไปที่เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง และเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เนื่องจากที่ผ่านมา นายราเมศ ทำงานด้านกฎหมายให้แก่พรรคมาตลอด และภายหลังจากที่เจ้าตัวได้ไปยื่นเรื่องต่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กรณีนำภาพที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประดับยศให้มาติดที่ห้องทำงานแล้ว นายราเมศ ก็บอกว่า มีคนติดตามจ้องทำร้ายอยู่
ซึ่งตนได้แนะนำให้เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ และหาคนคุ้มกัน แต่สุดท้ายก็ยังมาถูกดักลอบทำร้าย โดยขณะนี้ เรื่องร้องเรียน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ยังอยู่ที่ ผบ.ตร. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากไม่ดำเนินการก็จะถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่