ASTVผู้จัดการรายวัน-กลุ่มกรีนยื่นผู้ตรวจสอบจริยธรรม “คำรณวิทย์-เหลิม” ซ้ำยื่นป.ป.ช. ฟันฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ตำรวจ เหตุบินให้ติดยศ แล้วไม่ยอมจับกุมทั้งๆ ที่เป็นนักโทษหนีคดี ด้าน ปชป. ไล่ "คำรณวิทย์"ลาออกไปเล่นการเมือง หรือไม่ก็ไปเป็น รปภ. ให้ทักษิณ
วานนี้ (6 ก.ย.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีให้สัมภาษณ์ยอมรับ และเปิดเผยภาพถ่ายที่เดินทางไปให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ต้องโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินประดับยศให้ที่ฮ่องกง และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ของพล.ต.ท คำรณวิทย์ ว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของตำรวจแต่ละคน และคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกดำเนินการก็เป็นคดีจากการปฏิวัติ อย่าไปใส่ใจ ส่อให้เห็นถึงลักษณะของการไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ได้ตัดสินลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายจาตุรันต์กล่าวว่า การที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้เปิดเผยภาพถ่ายดังกล่าวที่มีป้ายจารึกข้อความที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ คิดขึ้นเองว่า “มีวันนี้ เพราะพี่ให้” นั้น ก็อยากจะถามกลับไปว่า แล้วพล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ตอบแทนพี่ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร การที่เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ แล้วไม่จับกุมตัวมารับโทษ ทั้งที่ตนเองเป็นถึงเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีที่มีหมายจับ เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ควรต้องรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ และควรปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างกับนายตำรวจชั้นผู้น้อย แต่ก็กลับไม่แยกแยะความเป็นส่วนตัว และความสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ข้าราชการระดับสูงขององค์กร จึงเข้าข่ายมีพฤติการณ์จงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบราชการ และได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
ส่วนการให้สัมภาษณ์ของร.ต.อ.เฉลิม ก็สะท้อนว่าร.ต.อ.เฉลิม ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะไม่เอาผิดกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่เดินทางไปพบนักโทษทักษิณ แล้วไม่จับกุมมาดำเนินคดี ตามมาตรา 90 ของพ.ร.บ.ตำรวจ 2547 ที่ระบุว่า “ข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 72 สั่งลงโทษปลดออก หรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี ”
"การกระทำของบุคคลทั้ง 2 นอกจากจะทำให้ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชายำเกรงต่อพ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นนักโทษแล้ว ยังกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมายขององค์กรตำรวจ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นไม่ไว้วางใจองค์กรดังกล่าว จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งดำเนินการตรวจสอบ"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กลุ่มกรีน ได้เดินทางไปกล่าวโทษบุคคลทั้ง 2 ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และจงใจฝ่าฝืนพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติแล้ว
นายราเมศ รัตนะเชวง คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีห้องทำงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้แขวนรูปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประดับยศ พล.ต.ท.ให้ พร้อมเขียนข้อความแสดงความยินดี กับแจ๊สน้องรัก ขอให้มีความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นที่รักของประชาชนและเพื่อนตำรวจ รัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นเรื่องที่ทำให้พี่น้องประชาชนสิ้นหวังกับการกระทำของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ การเดินทางไปพบผู้ต้องหาและนักโทษที่หนีคดี เป็นเรื่องที่เลวร้ายในสังคมไทย เพราะกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อรู้แล้วว่าผู้ต้องหาหรือนักโทษหลบหนีอยู่ประเทศใด ก็จะต้องประสานกระทรวงการต่างประเทศ ประสานอัยการสูงสุด เพื่อนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น
"ภาพที่เห็นเป็นสิ่งที่เลวร้ายในองค์กรตำรวจมาก เป็นการทำร้ายและทำให้สถาบันตำรวจตกต่ำ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผบช.น. ควรลาออกจากการเป็นตำรวจไปลงเล่นการเมืองพรรคเพื่อไทย หรือไม่ก็ควรลาออกแล้วไปเป็น รปภ.ให้กับคุณทักษิณ ในต่างประเทศจะเหมาะสมกว่า"นายราเมศกล่าว
นายราเมศกล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าว ชัดเจนเป็นการกระทำที่ผิดต่อประมวลจริยธรรม ที่นายตำรวจทุกคนต้องพึงปฏิบัติตาม จากเหตุการณ์นี้ จะเห็นได้ว่า ไร้สำนึกถึงคำว่าคุณธรรมและจริยธรรม จึงขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี นายเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทั้งในเรื่องของจริยธรรม ทั้งนี้ จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ต่อไป