ASTVผู้จัดการรายวัน - "พล.ต.ท.คำรณวิทย์" เมินเสียงครหานักโทษหนีคดีติดยศให้ ยันเป็นภาพคนที่ตนรักและเคารพ อ้างวลี "มีวันนี้ เพราะพี่ให้" ไม่ใช่ได้ตำแหน่งเพราะ "แม้ว" แต่เป็นชื่อเพลง "พี่มีแต่ให้" ที่ชอบร้อง สวนทางวันมอบนโยบายตำรวจ บช.น. บอกมีวันนี้ได้เพราะทักษิณ "สุริยะใส"ชี้เป็นการสารภาพผิดกลางแจ้ง เตรียมร้อง ป.ป.ช. สอบข้อหาละเว้น "เหลิม"บอก ก็คนมันรัก จะผิดอะไร
วานนี้ (5 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยถึงรูปที่ถ่ายคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนำมาติดไว้ภายในพื้นที่รับรองของห้องทำงาน ผบช.น. โดยเป็นภาพขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประดับยศ พล.ต.ท. ให้ว่า เรื่องภาพที่นำมาติด คิดว่าไม่มีความผิดอะไร เพราะเป็นภาพของคนที่รัก ที่เคารพ และยึดเป็นแบบในการทำงาน อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นความภูมิใจของนักเรียนนายร้อยตำรวจอีกด้วย เนื่องจากสามารถก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากความรู้ความสามารถ การนำภาพมาติดก็เพราะเกิดจากความเคารพนับถือ
“ที่ติดไว้ ก็เพื่อให้เตือนตัวเองกับคำสอนต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกผมไว้ ทั้งเรื่องที่ต้องทำงานให้ประชาชนรัก และทำงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพ ส่วนใครจะมองอย่างไร หรือให้ความเห็นต่างๆ ว่าไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ผมไม่สนใจ และยืนยันว่าไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ติดรูปไว้เตือนใจถึงคำสอนของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ย้ำ
ส่วนป้ายคำที่ติดไว้ระหว่างรูปว่า “มีวันนี้ เพราะพี่ให้” ไม่ได้หมายความว่า ได้มานั่งตำแหน่ง ผบช.น. เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นวลีที่ชอบ และมาจากบทเพลงที่ร้องอยู่เป็นประจำ คือ เพลงพี่มีแต่ให้ แต่หากจะให้สอดคล้อง ก็คงเป็นเพราะคำสอนต่างๆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณให้มาเท่านั้น ไม่มีความหมายอื่นแอบแฝงแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้พูดในการมอบนโยบายแก่ตำรวจในสังกัด บช.น. โดยมีเนื้อหาขัดแย้งกับที่ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ โดยการให้นโยบายในวันนั้น มีใจความตอนหนึ่งว่า “ผมเจ็บช้ำเพราะโดนรังแก ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เป็นเสื้อแดง และจะย้ายผมทุกปี ผมจะไม่เอาความเจ็บช้ำของผมไปทำให้พวกท่านเจ็บช้ำ ให้ท่านทำงานให้ประชาชน ผมมาในจุดนี้ได้ ไม่ได้ตะกละ ไม่ชอบแทงกั๊ก มีใจนักเลงพอ ผมแทงหวยผิดให้เจ้ามือกินไป ไม่มีไปร้องหรือฎีกาใดๆ ทั้งสิ้น"
อีกเรื่องที่อยู่ในความรู้สึกผม คือ คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ความเป็นธรรมต้องเกิด อย่างที่ท่านเฉลิมพูด ผมบอกได้เลยว่ามีวันนี้ได้เพราะท่านทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ผมไม่กลัวอะไร เพราะผมกล้ารับสิ่งที่มีในวันนี้ ผมพูดชัดเจน ไม่แทงกั๊ก ที่มีวันนี้เพราะท่านทักษิณ ไม่ต้องกลัวผมแกล้ง ให้ทำงานให้ประชาชน ฝากให้ทำงานเต็มที่
***"ยะใส"ชี้เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เดินทางไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคำพิพากษาศาลในคดีอาญาและหมายจับของศาลอีก 6 หมาย ประดับยศให้ตามภาพถ่ายที่ปรากฏตามสื่อมวลชนทั่วไป ว่า เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันตำรวจไทยในภาพรวม ซ้ำร้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแบบไม่หวั่นเกรงกฎหมาย ทั้งที่ๆ ตัวเองรับราชการตำรวจ และเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ย่อมรู้ดีว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เห็นว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะชอบพอรักใคร่หรือมีบุญคุณต้องตอบแทน พ.ต.ท.ทักษิณ มากมายแค่ไหน ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ต้องจำแนกแยกแยะกับหน้าที่และความรับผิดชอบตามกรอบกฎหมาย อย่าเอาลัทธิบูชาบุคคล มาอยู่เหนือกฎหมายและความถูกต้อง มีวันนี้เพราะพี่ให้ แต่วันหน้าพี่ก็ช่วยไม่ได้เสมอไป ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ขัดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการและนักการเมืองแล้ว ยังเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะพล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ ต้องทำหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีมีหมายจับ ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
"พฤติกรรมกลับตรงกันข้าม ไม่ดำเนินการจับกุม ยังให้ผู้ต้องหาหนีคดีประดับยศให้อีก ผมว่าเป็นการกระทำที่จงใจทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ เข้าข่ายละเว้นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซ้ำรอย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงวันเกิดที่ผ่านมา” นายสุริยะใสกล่าว
***เตรียมยื่นเรื่อง ป.ป.ช.สอบ
อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้ กลุ่มกรีน จะไปกล่าวโทษต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งคำร้องครั้งนี้คงต้องกล่าวโทษ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย จะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนายตำรวจแต่ละคนย่อมไม่ได้ อ้างกับนักข่าวก็อาจจะอ้างได้ แต่เหตุผลแบบนี้ไปอ้างกับ ป.ป.ช.ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะงานนี้ถือเป็นการสารภาพผิดกลางแจ้ง
"กรณีแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในวงการตำรวจไทย จนคนมีหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตำรวจเอาเยี่ยงอย่างแข่งกันวิ่งไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ป.ป.ช.จะต้องเร่งรัดให้มีคำวินิจฉัยเพื่อให้เกิดหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง ประเด็นนี้เป็นประเด็นใหญ่ที่ศาลเองก็ควรจะมีหลักปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาเช่นกันไม่เช่นนั้นหมายจับที่ออกโดยศาลก็จะไม่มีความหมายไม่มีผลในทางปฏิบัติ"นายสุริยะใสกล่าว
***"เหลิม"อ้างคนเขารักจะไปผิดอะไร
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีห้องรับรองของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.มีภาพถ่ายขนาดใหญ่ข้างฝาเป็นรูปคู่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมป้ายจารึกข้อความ "มีวันนี้เพราะพี่ให้" ว่า คนเขารักเคารพแล้วจะมีปัญหาอะไร จะไปผิดอะไร ท่านเคารพของท่าน หัวใจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นสิทธิ ไม่มีอะไรผิด สมัยตนเป็นนายตำรวจก็ให้คนที่เคารพติดยศให้
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาอยู่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นคดีจากการปฏิวัติอย่าไปใส่ใจ ไม่ใช่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รัก พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวคนทั้งประเทศก็รักไม่ผิดอะไร ซึ่งตนยังไม่ได้เห็นรูปภาพดังกล่าว คนปากพล่อยชอบพูดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คนจะละเว้นได้ต้องมีหน้าที่ซึ่งนั่นเป็นนอกราชอาณาจักร ขนาดป้ายหาเสียงของนายชวน หลีกภัยที่ภาคใต้เกิดฝนตกยังมีคนไปกางร่มให้เลย
**แดงแถจะติดรูปใครมันผิดตรงไหน
นายวิภูแถลง พัฒนะภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เขาจะนับถืออะไรใคร ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ทราบจะหยิบเป็นประเด็นทำไม อย่างตน ถ้าที่บ้านมีรูปนายปรีดี พนมยงค์ รูปเหมา เจ๋อ ตุง รูป เช กูวารา บ้าง แล้วใครจะทำไม
“ท่านคำรณวิทย์ อาจจะแสดงให้เห็นว่า ก็เขาชอบ เขารักอย่างนี้ ถ้าเรื่องนี้จะผิด ก็ผิดเล็กน้อยว่า ควรจะเอารูปไว้ที่บ้าน ไม่ควรมาเอาไว้ที่ทำงาน ถ้า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่ได้มีตำแหน่งเป็น ผบช.น. ก็ไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นแน่”
เมื่อผู้สื่อข่าวแย้งว่า รูปนี้อย่าไปเทียบกับรูปบุคคลอื่น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคำพิพากษา และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหน้าที่จับกุม นายวิภูแถลงกล่าวว่า รูปนี้ถ่ายที่ต่างประเทศ อยู่นอกเหนืออธิปไตยของไทย และที่มีข่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามจะหยิบไปร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็คงทำไม่ได้เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่ได้มีอำนาจจับกุม เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะหยิบเอามาเป็นประเด็นการเมืองเท่านั้น