xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” ซัด ผบช.น.เป็น ตร.ไม่รู้ถูกผิด บินให้ “นช.แม้ว” ติดยศ ชง ป.ป.ช.ฟัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน(แฟ้มภาพ)
“สุริยะใส” ชี้ “บิ๊กแจ๊ส” โชว์รูปหรากับทักษิณ เท่ากับสารภาพผิดกลางแจ้ง เตรียมร้องกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.พ่วง “เฉลิม” ข้อหาละเว้น เตือนต้องแยกแยะส่วนตัวกับหน้าที่ ซัดมีวันนี้เพราะพี่ให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าพี่จะช่วยได้เสมอไป

วันนี้ (5 ก.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เผยถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เดินทางไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคำพิพากษาศาลในคดีอาญาและหมายจับของศาลอีก 6 หมาย ประดับยศให้ตามภาพถ่ายที่ปรากฏตามสื่อมวลชนทั่วไปนั้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันตำรวจไทยในภาพรวม ซ้ำร้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแบบไม่หวั่นเกรงกฎหมาย ทั้งที่ๆ ตัวเองรับราชการตำรวจ และเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ย่อมรู้ดีว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย

พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะชอบพอรักใคร่หรือมีบุญคุณต้องตอบแทน พ.ต.ท.ทักษิณ มากมายแค่ไหนก็เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ต้องจำแนกแยกแยะกับหน้าที่และความรับผิดชอบตามกรอบกฎหมาย อย่าเอาลัทธิบูชาบุคคล มาอยู่เหนือกฎหมายและความถูกต้อง มีวันนี้เพราะพี่ให้ แต่วันหน้าพี่ก็ช่วยไม่ได้เสมอไป ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ขัดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการและนักการเมืองแล้ว ยังเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ ต้องทำหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีมีหมายจับ ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ

“แต่พฤติกรรมกลับต้องกันข้ามไม่ดำเนินการจับกุมแล้วยังให้ ผู้ต้องหาหนีคดีประดับยศให้อีก ผมว่าเป็นการกระทำที่จงใจทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ เข้าข่ายละเว้นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซ้ำรอย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงวันเกิดที่ผ่านมา” นายสุริยะใสระบุ

ภายในสัปดาห์นี้ กลุ่มกรีน (Green Politics) จะไปกล่าวโทษต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งคำร้องครั้งนี้คงต้องกล่าวโทษ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย จะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนายตำรวจแต่ละคนย่อมไม่ได้ อ้างกับนักข่าวก็อาจจะอ้างได้ แต่เหตุผลแบบนี้ไปอ้างกับ ป.ป.ช.ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะงานนี้ถือเป็นการสารภาพผิดกลางแจ้ง

กรณีแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในวงการตำรวจไทย จนคนมีหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตำรวจเอาเยี่ยงอย่างแข่งกันวิ่งไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ป.ป.ช.จะต้องเร่งรัดให้มีคำวินิจฉัยเพื่อให้เกิดหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง ประเด็นนี้เป็นประเด็นใหญ่ที่ศาลเองก็ควรจะมีหลักปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาเช่นกันไม่เช่นนั้นหมายจับที่ออกโดยศาลก็จะไม่มีความหมายไม่มีผลในทางปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น