ผ่าประเด็นร้อน
คำคมที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” หรือ ถ้าจะดูใครต้องดูให้นานๆ จะได้รู้ว่าใครของจริงหรือว่า “ของปลอม” เพราะบางทีภาพที่เห็นอยู่นั้นเป็นการ “แสดงละคร” ตบตาเท่านั้น และที่ผ่านมาอาจทำจนได้ผล จึงทำซ้ำๆ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง"ให้สัมภาษณ์
เชื่อว่าหลายคนในบ้านเมืองนี้คงจะอึ้งและสะอิดสะเอียนตามมากับภาพที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กำลังเอียงไหล่ให้ ทักษิณ ชินวัตร ประดับยศบนบ่า ขณะที่สองมือห้อยลงมากุมเป้าด้วยความนอบน้อม และยังมีภาพแสดงความยินดีอีกสักภาพสองภาพ ยิ่งไปกว่านั้นบนภาพดังกล่าวที่ติดหราอยู่ภายในห้องทำงานของเขายังมีข้อความแสดงความยินดีและอวยพรจาก ทักษิณ อีกด้วย
ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ คำว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” !!
หลักฐานวันเวลาปรากฏชัดเจนเสร็จสรรพ ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก
ถ้าให้เดาความหมายที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ต้องการสื่อและรำลึกบุญคุณในหัวใจตลอดเวลาว่าตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเพิ่งได้รับแต่งตั้งนั้นเป็นเพราะ ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนมอบให้อย่างนั้นหรือ
และความหมายก็คือต่อไปนี้ก็ต้อง “ตอบแทนให้ถึงขนาด” อย่างนั้นหรือ อย่างไรก็ดีเรื่องบุญคุณความแทนในสารบบลูกผู้ชายทั่วไปก็ต้องจดจำอยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีดังกล่าว ย่อมถือว่าผิดแผกไป และต้องยกเว้น
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ลืมไปแล้วหรือว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษหนีคดีทุจริต หนีหมายจับมากมาย เป็นผู้ต้องหาคดีผู้ก่อการร้าย เป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และที่สำคัญสถานะของตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานรักษากฎหมาย พฤติกรรมที่เห็นในภาพย่อมย่ำยีความรู้สึกของคนไทยว่า ตั้งคำถามว่าทำไมตำรวจต้องให้ “โจร” ประดับยศให้
นอกจากนี้ เรื่องใหญ่กว่านั้นหลังจากได้เห็นภาพ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จับมือกับ ทักษิณ ชินวัตร ความหมายยังกินกว้างไปไกลว่านี่คือขบวนการ “ย่ำยีศาล” อย่างยับเยิน เพราะสำหรับ ทักษิณ นั่นไม่ต้องแปลกใจ ที่ผ่านมาก็ได้กล่าวหาทำลายทุกครั้งที่มีโอกาส เช่นถ้อยคำ “กระบวนการยุติความเป็นธรรม” แต่สำหรับเขา คำรณวิทย์ เป็นตำรวจที่มียศพลตำรวจโทได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นผู้รักษากฎหมาย แต่กลับไปสมคบ “สุมหัว” อยู่กับโจรนอกกฎหมาย ถูกตัดสินจากศาลให้จำคุก 2 ปี ถูกศาลออกหมายจับในคดีทุจริตหลายคดี แทนที่เจอตัวที่ไหนต้องจับที่นั่น กลายเป็นผลออกมาตรงกันข้ามพินอบพิเทาโจรหน้าตาเฉย
อาจโต้แย้งว่า ทักษิณไม่ได้รับความยุติธรรมถูกกลั่นแกล้ง แต่ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ปฏิเสธตั้งแต่ต้น เท่าที่เห็น ทักษิณ ว่าจ้างทนายชั้นดีต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และตามขั้นตอน มิหนำซ้ำยังมีเรื่องวิ่งเต้น “ถุงขนมสองล้าน” เรี่ยราดอยู่ตามตีนศาลจนทนายความถูกจำคุก 6 เดือนถูกถอดใบอนุญาตมีหลักฐานประจักษ์ให้เห็นทนโท่ เมื่อไม่ได้ผลเห็นท่าไม่ดีก็หลบหนีออกไปแล้วหันมาแว้งกัดสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมืองจนถึงทุกวันนี้
อย่างไรก็ดี ภาพอัปยศดังกล่าวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถ้าจะให้เดาในตอนแรกคงไม่ใช่ต้องการเจตนาเปิดเผยให้สังคมทั่วไปได้ทราบ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรดลใจหรือหมั่นไส้ใครก็ไม่ทราบ ที่ทนเห็นการ “แสดงละคร” ตบตาต่อไปไม่ไหวจึงทำให้ประจานออกมาให้เห็นชัดๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วในความเป็นจริงเขาก็ไม่ต้องการให้ภาพดังกล่าวเผยแพร่ออกสู่ภายนอก ความตั้งใจจริงก็คือ เป็นแค่เปิดห้องให้นักข่าวสายอาชญากรรมเข้าไปถามความคืบหน้าคดีทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดงที่ขับรถชนนายดาบตำรวจนายหนึ่งเสียชีวิต และที่ผ่านมาบทบาทอันขึงขัง “ต่อหน้ากล้องทีวี” ต่อหน้าสื่อของเขาได้สร้างความประทับใจจากชาวบ้านไปอักโข เรียกเสียงปรบมือกราวใหญ่กำลังโกยคะแนนเข้ากระเป๋า แต่ก็อย่างว่า ของจริงของปลอมในที่สุดมันก็ “หลุด” ออกมาให้เห็นจนได้
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งกรณีที่เกิดขึ้นสำหรับ เขารับรองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาไม่ต่างจาก “นักสร้างภาพ” และภาพที่ออกมาทำให้ “ความชอบธรรม”ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หายวับไปกับตา คำพูดที่ว่า “ยอมไม่ได้” ที่มีสารวัตรปราบปราม สน.ทองหล่อ ที่จัดฉากช่วยผู้ต้องหา หรือภาพผู้บังคับบัญชาที่กระตือรือร้นช่วยลูกน้อง จะหายวับไปกับตา เพราะนั่นไม่สำคัญเท่ากับภาพความรู้สึกที่ว่า “โจรประดับยศให้ตำรวจ” เข้ามาแทนที่ และโจรดังกล่าวก็ไม่ธรรมดาแต่เป็นโจรปล้นชาติ ถูกกล่าวหาว่าทำลายสถาบันเบื้องสูงเสียด้วย อย่างไหนร้ายแรงกว่ากัน ลองคิดดู
เชื่อว่านับจากนี้จะมีคนเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีตามมา ภาพที่เพียรสร้างมาของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็จบลงเพียงแค่นี้ เพราะถ้าเขายังอยู่ในตำแหน่งก็จะหมดความน่าเชื่อถือ กลายเป็นว่าต่อไปเขาจะทำหน้าที่ตอบแทนทักษิณเท่านั้น ดังข้อความที่เขียนไว้เตือนใจคือ “มีวันนี้เพราะพี่” ถ้าต่อความหมายไปอีกก็คือ “ต่อไปผมจะตอบแทนพี่อย่างสุดลิ่ม” อย่างนั้นหรือ ภาพของตำรวจที่ทำงานรับใช้ชาวบ้านทั่วไปก็จะหายวับไปทันที!!
