ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักวิชาการชี้การเปลี่ยนป่าสนเป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าจะกระทบชายหาดฝั่งอ่าวไทยทั้งระบบ ไม่ใช่แค่เพียงใน จ.สงขลา เผยในขณะที่ อบจ.สงขลากำลังจะเปลี่ยนป่าสนเป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้า ต่างประเทศกลับซื้อทรายมาถมชายหาดเพื่อรักษาระบบนิเวศ
เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (15 ธ.ค.) ที่เวทีสระบัว แหลมสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา นายบรรจง นะแส นักวิชาการอิสระ ขึ้นเวที “ร่วมคัดค้านกระเช้าอัปยศ ทวงคืนป่าสนอ่อนผืนสุดท้าย สืบสานเจตนารมณ์” เพื่อชี้แจงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสาบสงขลาให้ประชาชนได้รับทราบ หลังจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา นำโดยนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา เริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างท่ามกลางเสียคัดค้านทั้งในแง่ของการอนุรักษ์แหลมสนอ่อน ซึ่งเป็นป่าสนผืนสุดท้ายของ จ.สงขลา
นายบรรจง นะแส กล่าวว่า นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา เป็นนักการเมืองที่ทำงานเพื่อการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาโดยตลอด ทั้งการเติมทรายหาดชลทัศน์หลังเกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง รวมทั้งดำเนินการให้มีการเคลื่อนย้ายโกดังเก็บสารกัมมันตรังสีซึ่งถูกเก็บอยู่กลางเมืองสงขลากว่า 30 ปี และการขอเพิ่มแปลงสัมปทานน้ำมันบริเวณเกาะหนู เกาะแมว จำนวน 1 ไร่ด้วย
นายพีระ ตันติเศรณี ได้ตั้งเจตนารมณ์จะ “ทำเมืองเก่าให้มีชีวิต” ซึ่งหมายถึงชีวิตของประชาชนที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางความเก่าของเมือง โดยวางแผนจัดกิจกรรมมากมายเพื่อจะผลักดันเป็นมรดกโลก รวมทั้งฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นชนวนสังหารอย่างโหดเหี้ยม และจนถึงวันนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า
สำหรับแหลมสนอ่อนซึ่งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา เป็นชายหาดฝั่งอ่าวไทย และถูก อบจ.สงขลา ใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา ที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตด้ำเนินการคัดค้านมาโดยตลอด เนื่องจากต้องการรักษาป่าสน และปกป้องชายหาด
“คนสงขลาต้องรู้ โครงการกระเช้าลอยฟ้านี้มีความซับซ้อน ต้องตื่นตัว และรวมพลังกันเพื่อต่อต้านโครงการดังกล่าว เพราะจะเกิดผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายหาดไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะหาดทรายในเขต จ.สงขลา เท่านั้น แต่ยังกระทบหาดทรายริมฝั่งทะเลอ่าวไทยทั้งระบบด้วย ทั้งนี้ ในขณะที่ อบจ.สงขลากำลังจะเปลี่ยนป่าสน และชายหาดเป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้า ต่างประเทศกลับซื้อทรายมาถมชายหาดเพื่อรักษาระบบนิเวศ” นายบรรจงกล่าว