ยะลา - สลดพบแล้วหัวชาวสวนยางพาราที่ตกเป็นเหยื่อเสือโคร่ง มีบาดแผลที่หัวหลายแห่ง โดยพบอยู่ห่างจากศพประมาณ 300 เมตร ในขณะที่ชาวบ้านหวาดผวาเสือโคร่งจะเข้าทำร้ายขณะเข้ากรีดยางพาราในสวน โดยคาดว่าจะเป็นเสือแม่ลูกอ่อนที่ก่อเหตุ และน่าจะเข้าป่ารอยต่อไทย-มาเลย์ไปแล้ว
วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา หน่วยกู้ภัยเบตงนำศีรษะของนายหย๊ะยา เซ็ง อายุ 44 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านอัยเยอร์ควีน ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา หลังเมื่อวันที่ 29 พ.ย.เข้าไปกรีดยางพาราในสวนยางพารา หมู่ที่ 8 บ้านอัยเยอร์ควีน ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา และได้ถูกเสือโคร่งตะปบจนเสียชีวิต และได้คาบศีรษะไปด้วย
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารพราน และชาวบ้านกว่า 50 คน ได้ออกติดตามค้นหาศีรษะจนมาพบศีรษะของผู้ตายซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำศีรษะมาชันสูตรที่โรงพยาบาลเบตง
จากการชันสูตรศีรษะพบว่า เป็นศีรษะของนายหย๊ะยา เซ็ง พบเหลือเพียงกะโหลกศีรษะที่มีร่องรอยถูกแทะส่วนที่เป็นชิ้นเนื้อจนเหลือเพียงกะโหลกดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่า ผู้ตายได้เข้าไปกรีดยางพาราตามปกติ ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่เสือคงออกมาหากินจนมาพบผู้ตายแล้วเข้าตะปบทันที ซึ่งอาจคิดว่าผู้ตายจะเข้าทำร้ายจึงได้เข้าตะปบผู้ตายก่อน
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา พื้นที่บริเวณใกล้สำนักสงฆ์บ้านปากบาง หมู่ 8 ต. ตาเนาะแมเราะ เป็นจุดที่นางคำภา จันเหลือง อายุ 59 ปีเข้าไปกรีดยาง แล้วถูกเสือตะปบจนเสียชีวิตมาแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเสือโคร่งที่หนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ และมาหลบซ่อนตัวอยู่ในแถบป่าลึกแถบนี้ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ติดตาม และพบเพียงรอยเท้าเสือโคร่ง กว้าง 8 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร ความห่างระหว่างเท้าหน้ากับเท้าหลัง 120 เซนติเมตร คาดว่าเสือโคร่งในครั้งนั้นได้หนีเข้าป่าประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.มุสตอปา มะนิ รักษาราชการแทน สวญ.สภ.อัยเยอร์เวง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้มีการประชุม 3 ฝ่าย และชาวบ้านในพื้นที่เพื่ออกติดตามซึ่งคาดว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ และได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านมีการระมัดระวังตัวขณะเข้าไปกรีดยางพารา โดยเฉพาะจุดเกิดเหตุ ส่วนชาวบ้านยังคงผวาหวาดกลัวจนบางคนไม่กล้าเข้าไปกรีดยางพารา
ส่วนตัวแทนกลุ่มชาวบ้านที่ออกไล่ล่าเสือโคร่ง เปิดเผยว่า จากการติดตามพร้อมเจ้าหน้าที่ได้พบรอยเท้าเสือโคร่งขนาดกว้าง 8 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร หลายรอยวนเวียนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และพบรอยเท้าเสือซึ่งมีความเล็กกว่าอีก 2 รอย คาดว่าเป็นเสือโคร่งแม่ลูกอ่อน เพราะมีรอยเท้าเสือที่เล็กกว่าประมาณ 2 ตัว ชาวบ้านคาดว่าเป็นลูกเสือโคร่งที่ออกตามแม่มาหาอาหาร
ด้านนายอุรุพงศ์ ชนะกุล ปลัดอำเภอเบตง ขอให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลกันเองก่อนในเบื้องต้น หลังจากนี้ ก็จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อหาทางดูแลป้องกันต่อไป ซึ่งเชื่อว่า เสือทั้ง 3 ตัวยังคงอยู่ในผืนป่าแห่งนี้เพราะเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเชื่อว่ายังคงมีสัตว์ป่าอีกจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมา ไม่มีพรานป่าเข้าไปล่าสัตว์ เพราะกลัวกลุ่มก่อความไม่สงบจะทำร้าย แต่อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายก็ไม่ได้ลดละในการติดตามเสือโคร่งแม่ลูกอ่อนดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น