ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ป่วนไม่เลิก! โจรใต้ดักซุ่มยิงพรานป่าชาวไทยพุทธในยะลาเสียชีวิตอีก 2 ศพ ขณะที่ตำรวจยะลาระดมตรวจค้น 18 พื้นที่เป้าหมายล่าคนร้ายคาร์บอม ตะลึงพบคลิปตอนเกิดเหตุในโทรศัพท์มือถือภายในบ้าน“กามัน ไชยชนะ” ด้าน "อดุลย์" รุดตรวจที่เกิดเหตุ ส่วนที่ปัตตานีคนร้ายเผากล้อง CCTV เสียหาย 7 ตัวหวังปิดตา จนท. "นายกฯปู" ปิ๊งไอเดียดับไฟใต้ เล็งเปิดช่องทีวีสื่อสารคนในพื้นที่เป็นภาษายาวี
วานนี้ (26 ก.ค.) ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ หลังรับแจ้งจึงประสานผู้บังคับบัญชาและรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าเหตุเกิดที่บนถนนทางเข้าหมู่บ้าน กม.26 ใน ม.2 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนคือนายเซ้ง ช่างคิด และนายกิตติศักดิ์ ชำนาญดี ทั้งคู่เป็นพรานป่าและได้เสียชีวิตขณะเข้าไปหาของป่า โดยถูกคนร้ายดักซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดและชนิด จนเสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เนื่องจากผู้ตายทั้ง 2 คน เป็นชาวไทยพุทธ
ด้าน พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปฎิบัติการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้เสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บ 1 นายเมื่อเย้นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากเกิดเหตุได้มีการประชุมด่วนตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยได้สั่งการให้รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา เรียกทีมงานสืบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ เพื่อที่จะเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพร้อมกัน โดยในพื้นที่ สภ.ท่าธง เป้าหมายเข้าตรวจค้นมี 10 เป้าหมาย สภ.โกตาบารู 4 เป้าหมาย และ สภ.รามัน 4 เป้าหมาย รวม 18 เป้าหมาย ซึ่งเป็นเป้าหมายแกนนำและแนวร่วมก่อเหตุรุนแรง
"โดยในพื้นที่ สภ.ท่าธง สามารถตรวจพบหลักฐานเป็นคลิปในโทรศัพท์มือถือที่มีภาพในที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยค้นได้จากบ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 7 ต.วังพญา อ.รามัน เป็นบ้านของนายกามัน ไชยชนะ แกนนำคนสำคัญที่หลบหนีไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวต่อไป" พล.ต.ต.พีระ กล่าว
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้คาร์บอมบ์เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียว สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผค 4883 สงขลา ที่คนร้ายทำการชิงทรัพย์ไปจากนายกิตติ แซ่อุ้ย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/2 ม.7 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา ขณะเดินทางเข้าไปส่งสินค้าในเขตพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 29 มี.ค.55 เวลาประมาณ 14.00 น.ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.55 เวลา 12.00 น.คนร้ายได้นำไปก่อเหตุยิงนายสังวร สุวรรณราช กำนันตำบลทุ่งคล้า อ.สายบุรี เสียชีวิต พร้อมพวก 4 คนบริเวณถนนสาย 42 ม.6 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะกลับจากการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำเดือนที่อำเภอสายบุรี ก่อนที่จะนำมาบรรจุระเบิดแล้วก่อเหตุคาร์บอมบ์ในวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา
วันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร. (ปป.4) เดินทางจากกรุงเทพฯด้วยเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียมาถึงสนามบินนราธิวาส ก่อนจะนำคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางต่อไปยัง จ.ยะลา ในทันที
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้มาดูสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นและดูแลเกี่ยวกับเรื่องงานศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต จากการที่ได้รับฟังรายงานก็ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าธง เป็นชุด รปภ.ครู และต้องใช้เส้นทางเป็นประจำ จึงยากในการป้องกันตนเอง
ที่ จ.ปัตตานี เวลา 08.30 น.วานนี้ พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.หนองจิก พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าริมถนนสาย 42 ปัตตานี-หาดใหญ่ ม.2 ต.ตุยง อ.หนองจิก หลังถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย 7 ตัว ใน 3 จุด คือ 1.ทางเข้าโรงพยาบาลหนองจิก 2.บริเวณปั๊มน้ำมันซัสโก้ และ 3.หน้าที่ทำการเกษตรอำเภอหนองจิก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุดพบเศษยางรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาแขวนไว้ที่กล้องวงจรปิด และมีคราบน้ำมันเบนซิน ซึ่งจากการสืบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายประมาณ 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันมาจอดในแต่ละจุด จากนั้นจึงราดน้ำมันที่ยางรถจักรยานยนต์ก่อนจะใช้ไม้นำยางไปพาดไว้ที่กล้องวงจรปิด จากนั้นจึงจุดไฟเผาแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่าการกระทำครั้งนี้คนร้ายหมายที่จะทำลายกล้องวงจรปิดที่อยู่ริมถนนเพื่อเตรียมจะก่อเหตุร้าย ทั้งนี้เพื่อปิดตาไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถเห็นภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เบื้องต้นรู้เบาะแสคนร้ายแล้วเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่มีความรุนแรงมากขึ้นและมีการพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ว่า เบื้องต้นได้หารือกับ ผบ.ทบ.ซึ่งก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ โดย ผบ.ทบ.ได้ลงพื้นที่ตามที่ตนสั่งการไปแล้วเมื่อวานนี้และตนได้กำชับเพิ่มเติมหลังจากมีเหตุการณ์ขึ้นอีก อย่างไรก็ตามหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปวิเคราะห์ ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ นอกเหนือจากการดูแลความปลอดภัยแล้วด้วย
“เราจะหาช่องทางด้านทีวี หรือการสื่อสารให้เป็นภาษายาวี เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดความเข้าใจ รวมถึงการทำงานด้านการพัฒนา และความช่วยเหลือประชาชนทั้งหมดนี้จะต้องทำควบคู่กันไป”นายกฯ กล่าว
วานนี้ (26 ก.ค.) ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ หลังรับแจ้งจึงประสานผู้บังคับบัญชาและรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าเหตุเกิดที่บนถนนทางเข้าหมู่บ้าน กม.26 ใน ม.2 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนคือนายเซ้ง ช่างคิด และนายกิตติศักดิ์ ชำนาญดี ทั้งคู่เป็นพรานป่าและได้เสียชีวิตขณะเข้าไปหาของป่า โดยถูกคนร้ายดักซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดและชนิด จนเสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เนื่องจากผู้ตายทั้ง 2 คน เป็นชาวไทยพุทธ
ด้าน พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปฎิบัติการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้เสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บ 1 นายเมื่อเย้นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากเกิดเหตุได้มีการประชุมด่วนตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยได้สั่งการให้รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา เรียกทีมงานสืบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ เพื่อที่จะเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพร้อมกัน โดยในพื้นที่ สภ.ท่าธง เป้าหมายเข้าตรวจค้นมี 10 เป้าหมาย สภ.โกตาบารู 4 เป้าหมาย และ สภ.รามัน 4 เป้าหมาย รวม 18 เป้าหมาย ซึ่งเป็นเป้าหมายแกนนำและแนวร่วมก่อเหตุรุนแรง
"โดยในพื้นที่ สภ.ท่าธง สามารถตรวจพบหลักฐานเป็นคลิปในโทรศัพท์มือถือที่มีภาพในที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยค้นได้จากบ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 7 ต.วังพญา อ.รามัน เป็นบ้านของนายกามัน ไชยชนะ แกนนำคนสำคัญที่หลบหนีไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวต่อไป" พล.ต.ต.พีระ กล่าว
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้คาร์บอมบ์เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียว สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผค 4883 สงขลา ที่คนร้ายทำการชิงทรัพย์ไปจากนายกิตติ แซ่อุ้ย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/2 ม.7 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา ขณะเดินทางเข้าไปส่งสินค้าในเขตพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 29 มี.ค.55 เวลาประมาณ 14.00 น.ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.55 เวลา 12.00 น.คนร้ายได้นำไปก่อเหตุยิงนายสังวร สุวรรณราช กำนันตำบลทุ่งคล้า อ.สายบุรี เสียชีวิต พร้อมพวก 4 คนบริเวณถนนสาย 42 ม.6 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะกลับจากการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำเดือนที่อำเภอสายบุรี ก่อนที่จะนำมาบรรจุระเบิดแล้วก่อเหตุคาร์บอมบ์ในวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา
วันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร. (ปป.4) เดินทางจากกรุงเทพฯด้วยเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียมาถึงสนามบินนราธิวาส ก่อนจะนำคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางต่อไปยัง จ.ยะลา ในทันที
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้มาดูสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นและดูแลเกี่ยวกับเรื่องงานศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต จากการที่ได้รับฟังรายงานก็ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าธง เป็นชุด รปภ.ครู และต้องใช้เส้นทางเป็นประจำ จึงยากในการป้องกันตนเอง
ที่ จ.ปัตตานี เวลา 08.30 น.วานนี้ พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.หนองจิก พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าริมถนนสาย 42 ปัตตานี-หาดใหญ่ ม.2 ต.ตุยง อ.หนองจิก หลังถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย 7 ตัว ใน 3 จุด คือ 1.ทางเข้าโรงพยาบาลหนองจิก 2.บริเวณปั๊มน้ำมันซัสโก้ และ 3.หน้าที่ทำการเกษตรอำเภอหนองจิก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุดพบเศษยางรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาแขวนไว้ที่กล้องวงจรปิด และมีคราบน้ำมันเบนซิน ซึ่งจากการสืบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายประมาณ 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันมาจอดในแต่ละจุด จากนั้นจึงราดน้ำมันที่ยางรถจักรยานยนต์ก่อนจะใช้ไม้นำยางไปพาดไว้ที่กล้องวงจรปิด จากนั้นจึงจุดไฟเผาแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่าการกระทำครั้งนี้คนร้ายหมายที่จะทำลายกล้องวงจรปิดที่อยู่ริมถนนเพื่อเตรียมจะก่อเหตุร้าย ทั้งนี้เพื่อปิดตาไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถเห็นภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เบื้องต้นรู้เบาะแสคนร้ายแล้วเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่มีความรุนแรงมากขึ้นและมีการพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ว่า เบื้องต้นได้หารือกับ ผบ.ทบ.ซึ่งก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ โดย ผบ.ทบ.ได้ลงพื้นที่ตามที่ตนสั่งการไปแล้วเมื่อวานนี้และตนได้กำชับเพิ่มเติมหลังจากมีเหตุการณ์ขึ้นอีก อย่างไรก็ตามหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปวิเคราะห์ ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ นอกเหนือจากการดูแลความปลอดภัยแล้วด้วย
“เราจะหาช่องทางด้านทีวี หรือการสื่อสารให้เป็นภาษายาวี เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดความเข้าใจ รวมถึงการทำงานด้านการพัฒนา และความช่วยเหลือประชาชนทั้งหมดนี้จะต้องทำควบคู่กันไป”นายกฯ กล่าว
