xs
xsm
sm
md
lg

อาชีพทำน้ำตาลโตนดรายได้ดี แต่ไร้การสืบทอดจากคนรุ่นใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พัทลุง - ลุงวัย 52 ยังยึดอาชีพทำน้ำตาลโตนด แม้ว่าจะเป็นคนสุดท้ายของหมู่บ้านแหลมดิน อ.ปากพะยูน ที่ทำอาชีพนี้ เผยรายได้ดีถึงเดือนละประมาณ 20,000 บาท

ที่บ้านแหลมดิน ม.1 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดริมทะเลสาบพัทลุง-สงขลา ลักษณะดินส่วนใหญ่จะเป็นดินเปรี้ยว เพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผล และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นใช้เป็นเส้นทางผ่าน และนำเมล็ดตาลโตนดมาปลูกไว้ โชคดีตาลโตนดดังกล่าวอายุยืนยาวตกทอดมาถึงปัจจุบัน แต่กลับเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนักเมื่ออาชีพทำน้ำตาลโตนดกลับไร้การสืบทอด ทั้งที่สร้างรายได้มหาศาลในแต่ละปี

มีแต่เพียง ลุงมานพ แดงสว่าง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 ม.1 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เท่านั้นที่ยังยึดอาชีพขึ้นตาลโตนดขาย โดยลุงมานพเป็นคนรุ่นสุดท้ายของหมู่บ้านที่ยึดอาชีพนี้ และปัจจุบัน ยังไม่มีผู้ใดสืบทอดต่อ

ลุงมานพ เปิดเผยว่า ต้นตาลในหมู่บ้านมีประมาณกว่า 3,000 ต้น เมื่อก่อนชาวบ้านร้อยละ 80 ประกอบอาชีพขึ้นตาลโตนด แต่ปัจจุบัน เหลือตนเพียงคนเดียว เพราะส่วนใหญ่เลือกที่จะทำงานที่สบาย และมีความเสี่ยงน้อยกว่า ทั้งนี้ ต้นตาลของตนมีประมาณ 200 ต้น ปัจจุบัน ที่ตนเก็บเกี่ยวผลผลิตน้ำตาลสดอยู่เพียง 18 ต้นเท่านั้น เนื่องจากด้วยความชรา และสายตาที่พร่ามัว ประกอบกับสุขภาพไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน
ลุงมานพ แดงสว่าง ขณะกำลังขึ้นต้นตาลโตนด

 
ลุงมานพ ยังกล่าวอีกว่า คนขึ้นตาลต้องมีใจรัก เพราะเคล็ดลับที่ทำให้ได้ผลผลิตน้ำตาลสดออกมาเยอะนั้นต้องผ่านกรรมวิธีหลายกระบวนการ การเก็บเกี่ยวต้องตื่นแต่เช้าตรู่ คือตั้งแต่ 04.30 น. ส่วนช่วงบ่ายก็ประมาณ 14.00 น. หลังจากนั้นก็จะนำน้ำตาลสดมาเคี่ยวประมาณ 6-8 ชม. จนเป็นน้ำตาลเหลว จำหน่ายในราคาปี๊บละ 1,000 บาท โดยมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ ส่วนรายได้โดยประมาณอยู่ที่ 20,000 บาท/เดือน สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแก่ครอบครัว


 
ทั้งนี้ อาชีพขึ้นตาลโตนดเป็นอาชีพที่เหนื่อยกว่าการกรีดยางพาราซึ่งเป็นอาชีพยอดนิยมของชาวใต้ และเสี่ยงตายมากกว่า ส่วนช่วงเดือนที่เก็บเกี่ยวผลผลิตคือ ช่วงกุมภาพันธ์-กรกฎาคมของทุกปี และช่วงที่ให้ผลผลิตน้ำตาลสดมากสุด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ช่วงชุมช่อของตาลโตนด” คือ ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และในขณะที่ช่วงฤดูฝนจะหยุดการเก็บเกี่ยวเช่นเดียวกับยางพารา

และแม้ว่าวันนี้บรรดาหนุ่มสาวในหมู่บ้านเลือกที่จะทำงานในเมืองหลังจากเรียนหนังสือจบ เนื่องจากสบายกว่า แต่ลุงมานพยังหวังลึกๆ ว่า วันหนึ่งคงจะมีใครสักคนที่เต็มใจจะมาสืบทอดภูมิปัญญาการทำน้ำตาลโตนดของบรรพบุรุษที่ดำเนินมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้คงอยู่คู่กับบ้านแหลมดินสืบไป
น้ำตาลสดก่อนเคี่ยวเป็นน้ำตาลปี๊บ
กระบอกไม้ไผ่สำหรับใส่น้ำตาลสดลงมาจากต้น
น้ำตาลปี๊บที่เคี่ยวเสร็จ ราคาสูงถึงปี๊บละ 1,000 บาท
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น