xs
xsm
sm
md
lg

“เกื้อหนุนสังคม ก้าวนำตลาด” ปรัชญาสู่การเติบใหญ่จาก ‘ลีวิวัฒน์’ ถึง ‘ลีทรัพย์สิน’ สงขลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิบูล อรุโณประโยชน์ กรรมการผู้จัดการห้างลีทรัพย์สิน ดีพาร์ทเม้น สโตร์ ซึ่งพัฒนาเติบโตมาจากการค้าปลีกค้าส่งในนาม “ลีวิวัฒน์ซุปเปอร์” แตกสาขากระจายในสงขลาและตรังรวม 10 สาขา
สินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย สินค้าในกลุ่มนี้ก็ได้รับผลกระทบไม่มากนัก ซึ่งแต่เดิมนั้น มีการเปิดร้านค้าในบ้านพักอาศัยก็สามารถดำเนินธุรกิจซื้อมาขายไปได้อย่างคล่องแคล่ว ทว่า ปัจจุบัน กลับมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในด้านการลงทุนเพื่อจูงใจลูกค้า ทำให้ธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะห้วง 10 ปีให้หลังที่มีทุนค้าปลีก-ค้าส่งจากต่างประเทศเข้ามามากมาย จนร้านค้ารายย่อยล้มหายตายจากไปแทบสิ้น

และสัปดาห์นี้ที่ “ASTVผู้จัดการ” ได้เจาะธุรกิจการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ของ อ.เมือง ซึ่งมีพัฒนาการปรับตัวจากรุ่นสู่รุ่น จนเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ ซึ่งถ่ายทอดโดยทายาทรุ่นที่ 3 “วิบูลย์ อรุโณประโยชน์” กรรมการผู้จัดการห้างลีทรัพย์สิน ดีพาร์ทเม้นสโตร์ ซึ่งพัฒนาเติบโตมาจากการค้าปลีกค้าส่งในนาม “ลีวิวัฒน์ซุปเปอร์” แตกสาขากระจายในสงขลา และตรังรวม 10 สาขา

กว่าที่จะทำเป็นห้างสรรพสินค้าปัจจุบันนั้นมีที่มาอย่างไร
เมื่อ 40 ปีก่อนนั้น คุณปู่ท่งเจีย แซ่ลี้ ได้เข้ามาค้าขายกับคุณย่าที่ อ.เมืองสงขลา โดยร่วมกับเครือญาติอีกทีหนึ่งขายข้าวสาร ก่อนที่จะแยกตัวมาเปิดร้านเองที่ถนนเพชรคีรี โดยเริ่มต้นจากร้านเพียง 1 คูหา ขายของใช้จำพวกหม้อ กระทะ นอกจากคนในพื้นที่แล้ว ก็ยังมีลูกค้าจาก อ.สทิงพระ ที่ให้บริการซื้อขายในระบบเงินผ่อน และต้องนั่งเรือไปส่งของถึงบ้าน ซึ่งการค้าในสมัยนั้นก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องจ่ายเป็นเงินเสียทีเดียว บางครั้งก็แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของในอัตราที่พอใจทั้งสองฝ่าย เช่นข้าวสาร หรือถั่วเขียว

กระทั่งคุณปู่ได้เปิดเป็นซูเปอร์มาร์เกตเป็นแห่งแรกในเมืองสงขลาในชื่อ “ลี้เชียงฮวด” โดยให้ลูกค้าสามารถหยิบของเองได้ และเปลี่ยนสินค้าไปอยู่ในกลุ่มอุปโภคบริโภค กระทั่งคุณปู่เสีย ก็พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง คุณพ่อขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นเป็น 2 คูหา มีการตกแต่ง จัดเรียง และติดแอร์เป็นร้านแรก และปรับชื่อใหม่เป็น “ลีวิวัฒน์” ซึ่งนอกจากขายปลีกแล้ว ยังขายส่งให้แก่ร้านชำอื่นๆ ในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีใครทำมาก่อน และตลาดก็มีความต้องการแบบนี้ ทำให้ร้านอื่นๆ เริ่มปรับตัวเปลี่ยนตาม ขณะเดียวกัน ทางร้านก็ได้ปรับกลุ่มสินค้าให้หลากหลายขึ้น มีเสื้อผ้า เครื่องสำอาง

ตอนเปิดสาขาที่ 1 ในที่ใหม่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งทางบริษัทผลิตสินค้าก็นำดาราดังมาทำกิจกรรมให้แก่ร้าน เท่าที่จำได้ เช่น สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่เป็นนางเอกดังของช่อง 7 หรือแม้แต่ ปรียานุช ปานประดับ รองนางสาวไทยก็เคยมา ซึ่งยุคนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับการทำธุรกิจในเมืองสงขลา เพราะยังไม่มีใครทำได้ขนาดนี้ เนื่องจากในแง่การลงทุนแล้วถือว่าทำเลของสงขลาไม่ได้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมเหมือนหาดใหญ่ ทุกคนก็จะคิดว่าไปลงทุนที่หาดใหญ่ได้มากกว่า แต่ครอบครัวผมเป็นคนตั้งใจมาลงหลักปักฐานที่นี่ จึงไม่ไปไหนเสียนอกจากพัฒนาบ้านของเราเอง จนกระทั่งตอนนี้เรามีทั้งหมด 10 สาขา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือห้างลีทรัพย์สินนั่นเอง

มีแนวคิดในการทำธุรกิจอย่างไรให้เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง
อย่างแรกคือ การเป็นผู้นำในการเอาสิ่งใหม่ๆ มาให้แก่คนในสงขลา อย่างที่เล่าให้ฟังว่าเราเริ่มปรับปรุงเรื่องสถานที่ให้ลูกค้าสามารถหยิบจับสินค้าเลือกเอง แยกเป็นหมวดหมู่ ตั้งแต่ร้านอื่นๆ ในพื้นที่ยังไม่ทำ เอารูปแบบการตกแต่ง ระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ เปิดเป็นเคาน์เตอร์ เซอร์วิสบริการชำระบิล กระทั่งทำเป็นห้างสรรพสินค้าเป็นแห่งแรกของ อ.เมืองสงขลา สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมมีความสะดวกสบายมากขึ้น สวนสนุกให้เด็กๆ เล่น เสื้อผ้าแบรนด์เนม ของใช้ อาหาร โดยที่ไม่ต้องเดินทางไป อ.หาดใหญ่ เหมือนก่อน

ส่วนในแง่การลงทุนนั้น จะใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ช่วงแรกจะขยายสาขาโดยใช้เงินสดทั้งหมด นั่นคือ เมื่อไหร่ที่มีกำไรมากพอ โดยตั้งเป้าของยอดขายที่จะต้องเพิ่มขึ้นเสาขาละ 10% ก็จะเปิดสาขาเพิ่มรอบๆ เมืองสงขลา ทั้งที่ตลาดรถไฟ หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา การเคหะสงขลา หน้าสวนตูล เป็นต้น เพื่อกระจายสินค้าให้ใกล้มือผู้บริโภคมากที่สุด และเป็นการเพิ่มกำลังซื้อสินค้าแก่บริษัทผู้ผลิตให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราได้สินค้าในราคาที่ต่ำลงที่จะขายให้ลูกค้าในราคาถูกกว่าที่อื่นๆ นั่นเอง ซึ่งมีบางสาขาที่ให้คนในครอบครัวบริหารเอง และมีอีก 1 สาขาที่แยกไปอยู่นอกพื้นที่ คือ จ.ตรัง

โดยในด้านของที่ดินนั้นจะไม่เน้นการลงทุน เพราะปัจจุบันเป็นต้นทุนสูงมาก ส่วนใหญ่จึงเป็นการขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดสาขาใหม่ซึ่งมีความสะดวก และถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่า และหากทำเลใดมีศักยภาพมาก ก็จะลงทุนเพิ่มตามแต่จังหวะ และโอกาส เช่น สาขาที่โรงหนังเพรสซิเดนท์ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำเลดีมาก แต่เกิดอุบัติเหตุอาคารถูกไฟไหม้ เราเลยขอเช่าต่อแล้วปรับปรุงใหม่ใช้เวลา 2-3 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ

เช่นเดียวกับที่เป็นห้างลีทรัพย์สินในปัจจุบัน เดิมนั้นยังเป็นซูเปอร์มาร์เกตที่กลุ่มลีวิวัฒน์เข้ามาบริหารในฐานะหุ้นส่วน ซึ่งธุรกิจขณะนั้นไม่ประสบความสำเร็จ และต้องแบกภาระเคลียร์สินค้าเป็นจำนวนมาก กระทั่งเจ้าของเดิมได้ขายหุ้นให้ภายหลัง จึงตัดสินใจพัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้า ด้วยศักยภาพของทำเล และ อ.เมืองสงขลายังไม่มีห้างแบบนี้ จึงกล้าที่จะลงทุนแม้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม เพราะมักจะคิดว่าสินค้าต้องแพงขึ้นอย่างแน่นอน กระทั่งใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สินค้าราคาถูกกว่าคือ สิ่งที่เรายังคงยึดถือมาโดยตลอดกระทั่งปัจจุบัน และมีกิจกรรมร่วมกับลูกค้าเพื่อเป็นการสมนาคุณ รวมถึงการสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังเริ่มมองหาธุรกิจอื่นๆ บ้าง นอกจากการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเอง ก็เปิดให้มีพื้นที่ให้เช่า ทำเป็นพลาซา เพราะบางสาขามีพื้นที่มากเพียงพอ แต่ก็ต้องใช้เวลาเป็นปีเพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่เหมือนกัน โดยช่วงแรกที่เปิดห้างลีทรัพย์สินนั้น ยังไม่มีแฟรนไชส์ หรือแบรนด์ดังให้ความสนใจ จนเกือบจะถอดใจ แต่เมื่อกัดฟันสู้ต่อ และสร้างความมั่นใจ ตอนนี้พื้นที่พลาซานั้นเต็มไปด้วยพันธมิตรทางธุรกิจ อย่างเช่น ร้านหนังสือซีเอ็ด, KFC, MK, ร้านวัตสัน, พิซซ่า เป็นต้น

แนวทางในการแก้ปัญหาข้อจำกัดของธุรกิจท้องถิ่นที่ต้องสู้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่นั้นเป็นอย่างไร
แม้ในขณะนี้จะมีธุรกิจรายอื่นเข้ามาแข่งขัน อีกทั้งทุนต่างชาติก็เข้ามาลงทุนใน อ.เมืองสงขลา ซึ่งนอกจากที่ต้องเปิดสาขาเพื่อกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคได้เร็วขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องอุดรอยรั่วก็คือ พัฒนาตัวเองมากกว่า เพราะจุดอ่อนของธุรกิจท้องถิ่นคือเรื่องของทรัพยากรคน และเทคโนโลยี ปีหน้าแม้จะต้องเผชิญกับค่าแรง 300 บาทจะเข้ามา แต่ที่นี่ยินดีที่จะสนับสนุน เพราะถือว่าให้ผู้ร่วมงานกับเราได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และทำงานกับเราได้นานขึ้น

แต่ปัญหาหลักคือ เทคโนโลยีที่สู้ไม่ได้ ทำให้ต้องเจอปัญหาสินค้าหายบ่อย ก็ต้องใช้พนักงานช่วยกันดูแล เพราะหากต้องติดตั้งเครื่องตรวจสอบ หรือกันขโมยนั้นก็ไม่คุ้มค่า ก็คงต้องอาศัยเรื่องของราคาขายที่เชื่อว่าเราถูกกว่าที่อื่นอย่างแน่นอนมาสู้ และปรับปรุงในส่วนของการให้บริการที่มีการร้องเรียน ซึ่งมีทั้งพนักงานของห้างเองประมาณ 400 คนใน 10 สาขา และที่บริษัทผู้ผลิตส่งมาขายชั่วคราวอีก 200-300 คน และพิจารณาให้บริการเพิ่มในส่วนของการชำระผ่านบัตรเครดิต โดยอาจจะกำหนดมูลค่าว่ากลุ่มไหนที่สามารถชำระผ่านบัตรนี้ได้ เพื่อไม่ให้เป็นการผลักภาระให้แก่ลูกค้าอีก 90% ที่ชำระเงินสด

สำหรับเป้าหมายในอนาคต
สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องทำงานเพื่อแข่งขันกับตัวเองมากขึ้น สาขาทั้งหมดที่เรามีนั้นต้องดูแล และพัฒนาให้เติบโตต่อไปตามศักยภาพ นอกจากนี้ ก็ต้องมองถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา นอกจากจะพัฒนาจากเป็นซูเปอร์มาร์เกตมาเป็นห้างสรรพสินค้า และทำเป็นธุรกิจพื้นที่ให้เช่าซึ่งต้องลองผิดลองถูกแล้ว ยังได้เพิ่มธุรกิจอพาร์ตเมนต์เพื่อลดความเสี่ยง และเปิดเป็นสาขาใหม่อีกแห่งหนึ่งควบคู่ไปด้วย

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เป็นไปได้ในอนาคตคือ การเปิดห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเติมเต็มข้อจำกัดด้านพื้นที่ของห้างลีทรัพย์สินให้มีความครบวงจรมากขึ้น เช่น ในส่วนของร้านอาหารที่ทางห้างลีทรัพย์สินนั้นไม่สามารถรองรับได้หลากหลาย หรือแม้แต่ข้อจำกัดด้านพื้นที่จอดรถ โดยจะใช้งบประมาณไม่สูงนักเพื่อไม่ให้กระทบกับสภาพคล่องของธุรกิจในภาพรวม

และนี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในแง่ของการปรับตัวท่ามกลางกระแสการรุกของทุนขนาดใหญ่ที่ขยายตัวออกต่างจังหวัด กระจายลงในแทบทุกอำเภอ สิ่งที่สำคัญคือ การไม่ยอมหยุดนิ่ง เพราะนั่นคือ การก้าวถอยหลัง

กำลังโหลดความคิดเห็น