ตรัง - พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูตลาดเมืองตรังโวย กรมการค้าภายในไม่เคยแจ้งให้ทราบเรื่องการคุมเข้มติดป้ายราคาหมู เผยสู้ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ไม่ไหว ยอดขายลดลง และยังขาดทุนยับจนหลายรายต้องปิดกิจการชิ่งหนี แนะควบคุมราคา
วันนี้ (6 พ.ย.) หลังจากที่กรมการค้าภายใน ได้ประกาศคุมเข้มราคาแนะนำซื้อขายหมูใน 4 กลุ่ม คือ หมูชำแหละภาคใต้ ราคาไม่เกิน กก.ละ 68 บาท เฉพาะเนื้อแดง (เนื้อสะโพก-เนื้อไหล่) ภาคใต้ ราคาไม่เกิน กก.ละ 110 บาท หมูมีชีวิตหน้าฟาร์มภาคใต้ราคาไม่เกิน กก. 56 บาท และชิ้นส่วนหมูเนื้อแดง เนื้อสะโพก และเนื้อไหล่ภาคใต้ ราคาไม่เกิน กก.ละ 95 บาท โดยผู้ขายต้องติดป้ายแสดงราคาให้ลูกค้าเห็นชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูในตลาดสดเทศบาลนครตรัง ยังไม่ได้ติดป้ายแสดงราคาตามที่กรมการค้าภายในได้ประกาศก่อนหน้านี้ และยังคงขายในราคาปกติ เช่น เนื้อแดง-สะโพกราคา กก.ละ 120 บาท เนื้อไหล่ราคา กก.ละ 130 บาท หมูสันนอกราคา กก.ละ 140 บาท หมูสันในราคา กก.ละ 140 บาท หมูสามชั้นราคา กก.ละ 140 บาท และยังพบอีกว่า บางเขียงหมูยังได้ใช้กระดาษปิดทับราคาเดิมไว้ด้วย ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถทราบถึงราคาจำหน่ายเนื้อหมูที่แท้จริงได้
จากการสอบถาม นายจรัญ ทองพันธุ์ อายุ 63 ปี พ่อค้าเขียงหมูร้านโกรัญ กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ลงพื้นที่แจ้งให้ทางพ่อค้าแม่ค้าทราบว่า ช่วงใดบ้างจะมีการคุมเข้มราคาขายเนื้อหมู และต้องมีการติดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่ได้ติดป้ายแสดงราคา และยังคงขายในราคาปกติเช่นนี้มานานแล้ว ทั้งนี้ หากมีการแจ้งให้ทราบทางพ่อค้าแม่ค้าก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ส่วนการที่กรมการค้าภายในได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องราคาหมูตกต่ำ โดยให้ทางห้างค้าปลีกขนาดใหญ่จำหน่ายเนื้อหมูแดงในราคาไม่เกิน กก.ละ 95 บาท ระหว่างวันที่ 2-14 พ.ย.นั้น ทำให้ลูกค้าแห่กันไปซื้อเนื้อหมูราคาถูกภายในห้างดังกล่าว เพื่อนำไปบริโภคจำนวนมาก ส่งผลกระทบให้ยอดขายของพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูในตลาดสดเทศบาลนครตรังลดลงกว่าร้อยละ 50 จากเดิมที่เคยขายได้วันละ 5 ตัว แต่ในช่วงนี้กลับขายได้แค่วันละ 1-2 ตัว จึงมีเขียงหมูหลายรายต้องปิดกิจการหนี เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงได้
ทั้งนี้ หากกรมการค้าภายในจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็ควรไปแก้ที่ราคาอาหาร ไม่ใช่ให้ห้างขนาดใหญ่มาขายในราคาถูกเช่นนี้ รวมทั้งกำหนดราคาขายเนื้อหมูให้เหมาะสมด้วย เพราะแม้ว่าทางห้างจะขายเนื้อหมูแล้วไม่ได้กำไร แต่ก็ไม่ขาดทุน ต่างกับพ่อค้าแม่ค้าที่คงอยู่ไม่รอด เพราะขายเนื้อหมูอย่างเดียว โดยไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นเสริมด้วย
นอกจากนั้น ยังพบกับปัญหาพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยข้างทางที่มักจะนำเนื้อหมูที่ไม่ค่อยสะอาด และไม่ถูกหลักอนามัยมานั่งเร่ขายในราคาถูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อเขียงหมูที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัยอย่างถูกต้องอย่างพวกตน