สตูล - ตำรวจน้ำไทยร่วมกับตำรวจน้ำรัฐเปอร์ลิส ออกลาดตระเวนน่านน้ำ หลังสถานการณ์ลักลอบขนน้ำมันเถื่อนรุนแรงจากราคาทั้ง 2 ฝั่งที่ต่างกันเท่าตัว โดยมีนายหน้าชาวมาเลเซียใช้ระบบกองทัพมดซื้อน้ำมันที่ปั๊มของมาเลเซีย และขนมาส่งที่ท่าเทียบเรือเพื่อลักลอบส่งต่อมาขายยังฝั่งไทย
วันนี้ (24 ต.ค.) ตำรวจน้ำไทยร่วมกับตำรวจน้ำรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ออกลาดตระเวนน่านน้ำท้องทะเลชายแดน หลังพบปัญหาน้ำมันเถื่อนทะลัก โดย พ.ต.ท.สาธร สุขส่ง สารวัตรตำรวจน้ำ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย ร.ต.อ.กนกพงษ์ สำราญใจ รองสารวัตรตำรวจน้ำ นำเรือตรวจการณ์ 521 ตำรวจน้ำออกลาดตระเวนร่วมกับตำรวจน้ำรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย
โดยทั้ง 2 หน่วยงานได้ทำงานบูรณาการร่วมกันออกตรวจเรือประมง 2 สัญชาติไทย-มาเลเซีย ทางด้านน่านน้ำประเทศไทยในพื้นที่ จ.สตูล และรอยต่อน่านน้ำประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางตำรวจน้ำมาเลเซียแจ้งว่า ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลกลางให้เร่งปราบปรามเรื่องน้ำมันเถื่อน หลังมีกระแสข่าวว่าน้ำมันในพื้นที่ชายแดนมีสาเหตุมาจากประเทศมาเลเซียไม่เข้มงวด จึงสั่งต้องปราบปรามให้สิ้นซาก
ทั้งนี้ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำรัฐเปอร์ลิสกล่าวว่า จากการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ไทย พบว่ามีกองทัพมดชาวมาเลเซียเป็นผู้ค้าส่งขายให้คนไทยนำน้ำมันจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้ประสานงานขอความร่วมมือไปยังฝ่ายรัฐบาลกลางแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ ซึ่งในขณะนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รับทราบแล้ว และออกคำสั่งให้ออกลาดตระเวนร่วมกับประเทศไทย พร้อมจัดกำลังตำรวจมาเลเซียและทหาร ให้ไปตรวจสอบทางฝั่งท่าเทียบเรือประเทศมาเลเซีย เพื่อตรวจดูเรือประมงที่เข้าวิ่งเทียบท่าในฝั่งมาเลเซีย หากพบเรือไทยให้เข้มงวด พร้อมตรวจตราท้องเรือ และให้คุมเข้มการเติมน้ำมันลงเรือ ส่วนฝั่งไทยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำคอยสกัดดักจับต่อไป
พ.ต.ท.สาธร สุขส่ง สารวัตรตำรวจน้ำกล่าวว่า ในวันนี้จึงได้เข้าสุ่มตรวจเรือประมง 2 สัญชาติ จากการตรวจไม่พบเรือแอบซุกน้ำมันเพราะเป็นเรือปกติ คาดว่าทางกลุ่มค้าน้ำมันจะรู้ตัว แต่อย่างไรก็จะทำงานร่วมกับประเทศมาเลเซียด้านการปราบปรามต่อไป ในด้านการข่าวพบว่า มีนายหน้าชาวมาเลเซียใช้ระบบกองทัพมดซื้อน้ำมันที่ปั๊มของมาเลเซีย และขนมาส่งที่ท่าเทียบเรือมาเก็บรวบรวมจนครบจำนวน 2,000 ลิตร
โดยตรวจสอบพบว่า ทางเรือไทยจะเข้าไปขนน้ำมันจากประเทศมาเลเซียที่ท่าเทียบเรือรัฐเปอร์ลิสในช่วงกลางคืน แล้วนำไปพักบริเวณด้านเกาะสาหร่าย และบริเวณเกาะปูยู อ.เมือง จ.สตูล ต่อมา ก็จะมีกองทัพมดของไทยล่องเรือหางยาวไปรับอีกทีโดยลัดเลาะทางป่าชายเลน ซึ่งเรือเจ้าหน้าที่ไม่สามารถวิ่งเข้ามาจับ และสกัดกั้นได้
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการทางเจ้าหน้าที่ประเทศมาเลเซียได้เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า ทางมาเลเซียโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และหน่วยงานยามรักษาชายฝั่งของมาเลเซียก็ได้มีการจับกุมการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเช่นกัน ซึ่งเน้นจับเรือสองสัญชาติเป็นส่วนใหญ่ โดยแต่ละเดือนจะจับได้จำนวนกว่า 20 ลำ ซึ่งจะกำหนดโทษเจ้าของเรือและลูกเรือจะโดนปรับคนละ 20,000-100,000 (ตามจำนวนน้ำมัน ซึ่งคิดเป็ 2 เท่าตามค่าราคาน้ำมันของมาเลเซีย) ส่วนน้ำมันจะยึดส่งเข้าไปให้รัฐบาลกลางไว้ใช้งาน ส่วนเรือหางยาวจะยึด และรื้อเป็นเศษไม้โดยไม่มีการต่อรอง ส่วนเรือประมงลำใหญ่จะใช้เครื่องบดทำลายตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ สำหรับราคาน้ำมันดีเซลฝั่งประเทศมาเลเซียอยู่ที่ราคาลิตรละ 13.50 บาท ขณะที่น้ำมันเบนซินลิตรละ 18 บาทกว่าเท่านั้น