ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-"ยุทธศักดิ์"ควง"ประยุทธ์" ลงพื้นที่ปัตตานี เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงใต้ "ผบ.ทบ." ระบุจะไม่เพิ่มกำลังทหารลงไปสนับสนุนอีก แต่จะเพิ่มกำลังตำรวจแทน "อดุลย์" สั่งตำรวจใต้จับตาเป็นพิเศษวันครบรอบ 8 ปีตากใบ 25-26 ต.ค.นี้ ขณะที่ "ผบก.ยะลา" เรียกทุกหน่วยประชุมวางมาตรการคุมเข้มทุกพื้นที่ พร้อมสั่งตรวจรถทุกคันที่เข้าเขตเซฟตี้โซน
วานนี้ (24 ต.ค.) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจอโนทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด, ผบก., ทหาร ตำรวจ รวมทั้งหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้เข้าร่วมประชุมและสรุปผลการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบ รวมถึงสรุปผลความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพิจารณาแนวทางการปรับแผนการปฏิบัติงานด้านนโยบายตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังยกกรณีข่าวลือการห้ามขายของในทุกวันศุกร์ รวมทั้งครบรอบ 8 ปี เหตุการณ์ตากใบที่ในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้เข้าหารือถึงมาตรการป้องกันร่วมกันของทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในการจะช่วยสร้างความเข้าใจ และเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการจะสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย จากนั้นในช่วงบ่ายทั้งคณะได้เดินทางไปร่วมพบปะพูดคุยถึงแนวทางการช่วยสร้างความสงบสุขร่วมกับกลุ่มปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนใต้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้มีการลงพื้นที่และให้กำลังใจกำลังพล อีกทั้งรวบรวมข้อมูลในการจัดหาเครื่องมือในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงาน ของอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตามที่ได้เคยมอบนโยบายไว้ และติดตามการทำงานในพื้นที่ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง อีกหนึ่งปัญหาในปัจจุบัน คือการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องปฏิบัติงานทั้งการดูแลความเรียบร้อยทั่วไป และส่วนของความมั่นคง อย่างไรก็ตาม จะมีการพบปะผู้นำชุมชนมุสลิมในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อร่วมพูดคุยและขอความร่วมมือในการแก้ปัญหาด้วย
"จะไม่เพิ่มกำลังทหารเข้าสนับสนุนในพื้นที่อีก เพราะทหารมีภารกิจด้านอื่นที่ต้องทำอยู่แล้ว และจำนวนที่มีอยู่ก็ถือว่ามากพอสมควร ดังนั้น จะเพิ่มกำลังตำรวจแทน ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติการบรรจุทหารกองหนุนให้เข้าเป็นตำรวจเพื่อช่วยงานด้านความมั่นคง และปฏิบัติยุทธวิธีร่วมกับทหาร ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่แยกจากตำรวจที่ทำหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรมทั่วไป ขณะเดียวกันนอกจากติดตามความคืบหน้าการทำงานที่เคยได้สั่งการไว้แล้ว จะตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เสริมการทำงาน ว่ายังขาดส่วนใดอีกบ้าง แล้วจะรายงานต่อนายกรัฐมนตรี"
อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ. ระบุว่าเท่าที่ทราบในสัปดาห์ต่อไปนายกรัฐมนตรีจะให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปผลงานให้รับทราบ
ส่วนในวันที่ 25 ต.ค.นี้ จะครบรอบเหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส นั้น ผบ.ทบ.กล่าวย้ำว่า แม้จะครบรอบเหตุการณ์ใดๆ สื่อมวลชนก็ไม่ควรออกข่าวย้ำเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์อีก เพราะที่ผ่านมา ได้ขอโทษและช่วยเหลือเยียวยาไปแล้ว จึงเหลือเพียงการทำความเข้าใจ และต้องไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอีก ดังนั้น หากเขียนข่าวให้รุนแรง ปัญหาก็จะไม่จบ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม มาตรการรักษาความสงบในพื้นที่ชายแดนใต้ในวันครบรอบ 8 ปีเหตุการณ์ตากใบวันที่ 25 ต.ค.ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังเหตุ ทำมาตราการเชิงรุก วางมาตรการหาข่าว ทำมวลชน ซึ่งการควบคุมสถานการณ์ก็สามารถทำได้ดี แม้ว่ามีบางส่วนที่เล็ดลอดไปได้
"วันนี้ ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ร่วมคณะลงพื้นที่ภาคใต้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เพื่อไปทำงานร่วมกัน เบื้องต้นยังไม่มีการข่าวน่าเป็นห่วง ซึ่งล่าสุด ผบก.ทุกจังหวัด และ ผบช.ศชต. รายงานผบ.ตร.ว่ายังไม่มีสถานการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง เฝ้าระวังเต็มที่"
ส่วนที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตราการป้องกันเหตุร้ายในช่วงใกล้วันครบรอบ 8 ปี ที่ อ.ตากใบ และที่จุดตรวจต่างๆ กำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจเข้มรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างละเอียดทุกคันที่เข้าไปในเขตเซฟตี้โซน และที่เข้ามาในตัวเมืองยะลา เพราะวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม คือ วันฮารี-รายอ ในที่วันที่ 26 ต.ค.นี้ โดยมี ผกก.ทุกอำเภอ และรอง ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเข้าร่วมประชุม
ด้าน พ.ต.ท.วัชชิรานนท์ นนท์นา สารวัตรตำรวจน้ำตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ ร .ต.ท.ฮัมดัน หะยีมุสตาฟา รองสารวัตรตำรวจน้ำเป็งกาลังกูโบร์ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้นำเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำจากประเทศไทยและเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำของประเทศมาเลเซีย ร่วมกันออกลาดตระเวน ตรวจค้นเรือประมงสัญชาติไทย และเรือประมงสัญชาติมาเลเซียที่กำลังทำการประมงกันอยู่ในหน้าน่านน้ำตากใบ ซึ่งเป็นตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน, การค้ายาเสพติด และการก่อปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ทางทะเลข้ามชาติ ตามแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาลมาเลเซีย
วานนี้ (24 ต.ค.) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจอโนทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด, ผบก., ทหาร ตำรวจ รวมทั้งหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้เข้าร่วมประชุมและสรุปผลการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบ รวมถึงสรุปผลความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพิจารณาแนวทางการปรับแผนการปฏิบัติงานด้านนโยบายตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังยกกรณีข่าวลือการห้ามขายของในทุกวันศุกร์ รวมทั้งครบรอบ 8 ปี เหตุการณ์ตากใบที่ในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้เข้าหารือถึงมาตรการป้องกันร่วมกันของทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในการจะช่วยสร้างความเข้าใจ และเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการจะสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย จากนั้นในช่วงบ่ายทั้งคณะได้เดินทางไปร่วมพบปะพูดคุยถึงแนวทางการช่วยสร้างความสงบสุขร่วมกับกลุ่มปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนใต้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้มีการลงพื้นที่และให้กำลังใจกำลังพล อีกทั้งรวบรวมข้อมูลในการจัดหาเครื่องมือในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงาน ของอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตามที่ได้เคยมอบนโยบายไว้ และติดตามการทำงานในพื้นที่ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง อีกหนึ่งปัญหาในปัจจุบัน คือการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องปฏิบัติงานทั้งการดูแลความเรียบร้อยทั่วไป และส่วนของความมั่นคง อย่างไรก็ตาม จะมีการพบปะผู้นำชุมชนมุสลิมในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อร่วมพูดคุยและขอความร่วมมือในการแก้ปัญหาด้วย
"จะไม่เพิ่มกำลังทหารเข้าสนับสนุนในพื้นที่อีก เพราะทหารมีภารกิจด้านอื่นที่ต้องทำอยู่แล้ว และจำนวนที่มีอยู่ก็ถือว่ามากพอสมควร ดังนั้น จะเพิ่มกำลังตำรวจแทน ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติการบรรจุทหารกองหนุนให้เข้าเป็นตำรวจเพื่อช่วยงานด้านความมั่นคง และปฏิบัติยุทธวิธีร่วมกับทหาร ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่แยกจากตำรวจที่ทำหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรมทั่วไป ขณะเดียวกันนอกจากติดตามความคืบหน้าการทำงานที่เคยได้สั่งการไว้แล้ว จะตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เสริมการทำงาน ว่ายังขาดส่วนใดอีกบ้าง แล้วจะรายงานต่อนายกรัฐมนตรี"
อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ. ระบุว่าเท่าที่ทราบในสัปดาห์ต่อไปนายกรัฐมนตรีจะให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปผลงานให้รับทราบ
ส่วนในวันที่ 25 ต.ค.นี้ จะครบรอบเหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส นั้น ผบ.ทบ.กล่าวย้ำว่า แม้จะครบรอบเหตุการณ์ใดๆ สื่อมวลชนก็ไม่ควรออกข่าวย้ำเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์อีก เพราะที่ผ่านมา ได้ขอโทษและช่วยเหลือเยียวยาไปแล้ว จึงเหลือเพียงการทำความเข้าใจ และต้องไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอีก ดังนั้น หากเขียนข่าวให้รุนแรง ปัญหาก็จะไม่จบ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม มาตรการรักษาความสงบในพื้นที่ชายแดนใต้ในวันครบรอบ 8 ปีเหตุการณ์ตากใบวันที่ 25 ต.ค.ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังเหตุ ทำมาตราการเชิงรุก วางมาตรการหาข่าว ทำมวลชน ซึ่งการควบคุมสถานการณ์ก็สามารถทำได้ดี แม้ว่ามีบางส่วนที่เล็ดลอดไปได้
"วันนี้ ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ร่วมคณะลงพื้นที่ภาคใต้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เพื่อไปทำงานร่วมกัน เบื้องต้นยังไม่มีการข่าวน่าเป็นห่วง ซึ่งล่าสุด ผบก.ทุกจังหวัด และ ผบช.ศชต. รายงานผบ.ตร.ว่ายังไม่มีสถานการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง เฝ้าระวังเต็มที่"
ส่วนที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตราการป้องกันเหตุร้ายในช่วงใกล้วันครบรอบ 8 ปี ที่ อ.ตากใบ และที่จุดตรวจต่างๆ กำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจเข้มรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างละเอียดทุกคันที่เข้าไปในเขตเซฟตี้โซน และที่เข้ามาในตัวเมืองยะลา เพราะวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม คือ วันฮารี-รายอ ในที่วันที่ 26 ต.ค.นี้ โดยมี ผกก.ทุกอำเภอ และรอง ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเข้าร่วมประชุม
ด้าน พ.ต.ท.วัชชิรานนท์ นนท์นา สารวัตรตำรวจน้ำตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ ร .ต.ท.ฮัมดัน หะยีมุสตาฟา รองสารวัตรตำรวจน้ำเป็งกาลังกูโบร์ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้นำเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำจากประเทศไทยและเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำของประเทศมาเลเซีย ร่วมกันออกลาดตระเวน ตรวจค้นเรือประมงสัญชาติไทย และเรือประมงสัญชาติมาเลเซียที่กำลังทำการประมงกันอยู่ในหน้าน่านน้ำตากใบ ซึ่งเป็นตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน, การค้ายาเสพติด และการก่อปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ทางทะเลข้ามชาติ ตามแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาลมาเลเซีย