ปัตตานี - รองนายกฯ ลั่นพร้อมส่งเครื่องมือทันสมัยเสริมการปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนใต้ เน้นย้ำ รปภ.เข้มครบรอบเหตุการณ์ตากใบ เผยกรณี จนท.มีเอี่ยวค้าของหนีภาษี และน้ำมันเถื่อน ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และว่ากันไปตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (24 ต.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เดินทางมายังโรงแรมซีเอส ปัตตานี เพื่อพบปะกับบรรดาปัญญาชนมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศทางตะวันออกกลาง เพื่อมอบนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ พร้อมปรับวิสัยทัศน์ และรองรับเข้าสู้สมาคมอาเซียน นอกจากนี้ ยังต้องการให้ปัญญาชนมุสลิมนำความรู้ไปถ่ายทอดชุมชนของตนเองด้วย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางลงมาในพื้นที่ครั้งนี้เป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยฝากให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความอดทนเพื่อประเทศชาติ อย่าประมาท หรือให้เกิดความสูญเสีย และพร้อมที่จะสนับสนุนเครื่องมือที่ทันสมัยลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทาง ผบ.ทบ. ก็ได้พูดถึงเรื่องการประเมินกระบวนการทำงานของแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ถ้าประเมินเสร็จก็พร้อมที่จะเป็นประธานในการพิจารณากลุ่มงานของแต่กระทรวง
ส่วนการดูแลความปลอดภัยช่วงครบรอบ 8 ปีเหตุการณ์ตากใบ ตนก็ได้เตือนให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวังอย่างเต็มที่ รวมไปถึงวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเป็นวันฮารีรายอของชาวมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งต้องดูแลอย่าให้มีปัญหาเกี่ยวกับศาสนา ทั้งนี้ ทาง ศอ.บต.ก็ได้เข้าไปดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าวแล้ว
ส่วนภัยแทรกซ้อนที่มาจากกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อน ของหนีภาษี และยาเสพติดนั้น ถือเป็นภัยที่ต้องเร่งการแก้ไข เพราะภัยแทรกซ้อนเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพื่อต้องการสถานะของเขาให้ยังอยู่ ฉะนั้น ก็ขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่เบื้องบนลงมาทำงานในพื้นที่ด้วย
“ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย และของเถื่อนที่มีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ตนก็ได้ให้มีการตรวจสอบ และว่ากันไปตามกระบวนกฎหมาย แต่ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่หากไม่มั่นใจในกระบวนการตรวจสอบก็ได้มีการจัดคณะทำงานพิเศษเข้ามาตรวจสอบ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดก็มีแค่นั้น ซึ่งตนก็ได้ตักเตือนเข้มงวดไปแล้ว ตนคิดว่าไม่น่าจะมีการกระทำอีก” พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
