xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ตามโครงการแหล่งน้ำจืดสุราษฎร์ฯ เจอ นศ.ยื่นค้านมหาลัยออกนอกระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีตรวจติดตามโครงการแหล่งน่ำจืดขนาดใหญ่ บึงขุนทะเล จ.สุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี - นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่สุราษฎร์ฯ ตรวจติดตามโครงการแหล่งน้ำจืดบึงขุนทะเล แหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องใช้งบก่อสร้างประมาณ 280 ล้านบาท ด้านนักศึกษาราชภัฏทั่วประเทศยื่นหนังสือถึง รมต.ศึกษาคัดค้านนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (21 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาดูสภาพพื้นที่บึงขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่มีพื้นที่ 1,271 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เทศบาลตำบลวัดประดู่ และเทศบาลตำบลขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีสภาพรกร้าง โดยทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักงโยธาธิการจังหวัดสุราฎร์ธานีเคยทำโครงการตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัดนำเสนอรัฐบาลมาหลายครั้งแล้ว ด้วยงบประมาณ 280 ล้านบาท มาตั้งแต่ปี 2547 แต่ไม่ผ่านการพิจารณา

โดยการเดินทางมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ทางภาครัฐหวังว่าจะได้รับการพิจารณาจากการประชุม ครม.ในครั้งนี้ โดยที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจรับฟังบรรยายสรุป พร้อมกับเดินสำรวจสภาพพื้นที่ประมาณ 10 นาที สร้างความปลาบปลื้มแก่ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนที่มาต้อนรับ และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก
นักศึกษามหาวิยาลัยราชภัฎยืชื่นหนังสือคัดค้านนำมหาวิยาลัยออกนอกระบบ
และในเวลา 17.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุม กรอ.จังหวัดภาคใต้ ที่ห้องประชุมวิทลัยนานาชาติการท่องเที่ยวราชภัฏสุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย เพื่อรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน โดยมีภาคเอกชนต่างๆ เข้าร่วมเป็นจำนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

ในขณะเดียวกัน นายตรีวุฒิ พิมกินรีย์ ประธานสมาพันธ์นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย พร้อมกับนักศึกษาจำนวนกว่า 50 คน ได้เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยนออกนอกระบบ ต่อนายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายตรีวุฒิ พิมกินรีย์ ได้ระบุว่า แม้มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งประสงค์จะขอเปลี่ยนสถานภาพการบริหารจากมหาวิทยาลัยในระบบราชการไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศเห็นตรงกันว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏควรอยู่ในระบบราชการต่อไป เพราะต้องการธำรงไว้ซึ่งการเป็นบัณฑิตของพระราชา อีกทั้งเกรงว่า เมื่อออกนอกระบบแล้วจะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง กลายเป็นการจัดการศึกษาเชิงพาณิชย์

ด้านนายบรรพต สมเชื้อ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปรัชญาของมหาวิทยาลัยราชภัฏคือ การเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น หากออกนอกระบบเกรงว่าปรัชญานี้จะถูกเปลี่ยนแปลง นักศึกษาและมหาวิทยาลัยจะห่างเหินกับท้องถิ่นมากขึ้น อีกทั้งจิตสาธารณะของนักศึกษาจะเปลี่ยนไป สำหรับแถลงการณ์ของสมาพันธ์นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย มี 5 ข้อดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลศึกษาและทบทวนผลที่เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยในระบบราชการ ไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ พร้อมทั้งนำเสนอสู่สาธารณชน 2.ขอให้รัฐบาลจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 3.ขอให้มหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศเป็นมหาวิทยาลัยในระบบราชการต่อไป โดยไม่เป็นมหาวิทยาลัยในลักษณะรัฐวิสาหกิจ 4.ขอให้รัฐบาลตรวจสอบ พิทักษ์ และดูแลสิทธิประโยชน์อันพึงได้ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ และ 5. มหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศเป็นมหาวิทยาลัยของท้องถิ่น และขอเป็นที่พึ่งของประชาชนโดยยืนยันการไม่เปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ

กำลังโหลดความคิดเห็น