รองหัวหน้าประชาธิปัตย์โซนใต้ ชี้ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้ยังสับสน เหตุชน กก.ยุทธศาสตร์พัฒนา จว.ชายแดนใต้ ระบุถ้านายกฯ ไม่มีความรู้ก็มอบงานให้รองนายกฯ ทำได้ ไม่ต้องตั้ง กก.เพิ่ม สับรัฐ 1 ปี ไม่ใส่ใจปัญหา เชื่อยิ่งทำแก้ได้ช้าลง โต้ “เหลิม” บอกก็น่าจะรู้ระบบราชการสุดช้า ถ้าไม่ลงพื้นที่ก็ไม่ได้รับรายงาน
วันนี้ (8 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล เพื่อให้การทำงานเป็นเอกภาพมากขึ้นว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นผู้รับผิดชอบดูแล 5 จังหวัดชายแดนใต้ รู้ว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ต้องมีบทบาทหลักควบคู่กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.ศอ.บต.และ ผอ.กอ.รมน. ซึ่งการที่รัฐบาลเริ่มตื่นตัวจัดทำยุทธศาสตร์และตั้งกรรมการต่างๆ ขึ้นมาในขณะนี้ ถือว่ายังสับสน เพราะจากการที่รัฐบาลได้เคยแถลงนโยบายผ่านรัฐสภา ระบุว่าจะมุ่งเน้นการเมืองนำการทหาร แต่ปรากฏว่ารัฐบาลบริหารมา 1 ปีกลับนิ่งเฉย ไม่ได้แก้ไขปัญหาตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ว่าจะให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ โดยมีองค์กรที่ทำหน้าที่ปฏิบัติคือ ศอ.บต. และกอ.รมน.
นายถาวรกล่าวว่า รัฐบาลสับสนเพราะองค์กรมีอยู่แล้ว นโยบายมีอยู่แล้วกลับไปตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ พยายามทำให้ผิดไปจากนโยบายที่แถลงไว้ คือไปตั้งคณะกรรมการบูรณาการการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ที่เรียกว่าเพนตากอน แม้จะอ้างว่าตั้งขึ้นมาเพื่อมาช่วยการประสานงานให้เกิดเอกภาพนั้น คนที่มีหน้าที่ประสานคือนายกฯ แต่หากนายกฯ ไม่มีความรู้ ไม่ถนัดก็มอบหมายให้รองนายกฯ สักคนหนึ่งดูแลได้ โดยไม่ต้องไปตั้งคณะกรรมการเพิ่ม แต่บริหารงานตามนโยบายที่ กพต.จัดตั้งขึ้นมา ผ่าน ศอ.บต.และกอ.รมน. เท่านี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่รัฐบาลไม่ได้ใส่ใจมากว่า 1 ปี ปล่อยปัญหาให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยไร้ทิศทาง ไม่เกิดเอกภาพ จนมาคิดบูรณาการ ถือเป็นการยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไร้เอกภาพ
“การตั้งคณะบูรณาการ หรือเพนตากอน จึงเป็นการซ้ำซ้อนกับ กพต. แถมยังตั้งอยู่ส่วนหลังห่างไกลพื้นที่ แล้วจะมีใครไปติดตามคอยขับเคลื่อนนโยบาย ประเมินผล รับฟังปัญหาที่แท้จริงจากประชาชน การให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ไม่มีใครลงไป ซึ่งทำให้การแก้ปัญหายิ่งช้าลง ดังนั้น อยากเสนอด้วยความหวังดีให้แต่งตั้งลงไปดูแลสักคน ขับเคลื่อนนโยบายที่มีอยู่แล้ว พร้อมทั้งให้มีการประชุม กพต.เดือนละครั้งเหมือนการประชุม ครม.เศรษฐกิจ เพราะ กพต.เปรียบเหมือน ครม.ภาคใต้” นายถาวรกล่าว
นายถาวรกล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ไม่ได้เป็นการรบกวนเหมือนอย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พูดว่าการนั่งแนวหลังจะได้รับรายงานที่ถูกต้อง ท่านก็อยู่ในระบบราชการมานานย่อมรู้ว่าระบบราชการล่าช้า จะรายงานไม่หมด โดยเฉพาะความบกพร่องของตัวระบบราชการในพื้นที่เขาจะไม่รายงาน หากเราไม่ลงไปดู ขนาดตอนที่ตนลงไปดูแลกำชับอย่างใกล้ชิด หลายเรื่องก็ยังล่าช้า ดังนั้น ควรจะมอบหมายรองนายกฯ สักคนลงไปในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนนโยบายอย่างใกล้ชิด