ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อดีต ผอ.สกย.สงขลา ฟุ้งเตรียมตั้งพรรคการเมืองเพื่อแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ จวกรัฐบาลส่งคนไร้ฝีมือมาบริหารทั้งสิ้น ด้านชาวสวนยางลุยตั้งพรรคยางพาราไทยเต็มสูบสำหรับการเลือกตั้งที่ส่ง ส.ส.และมีแผนขยายฐานเสียงแน่นอนทุกจังหวัด
นายจิโรจน์ หริรักษาพิทักษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดสงขลา เขต 2 (สกย.) เปิดเผยว่า ธุรกิจยางพาราไทยยังไม่มีรัฐบาลใดที่มีความสามารถบริหารได้ดี และจริงจัง และการวางมาตรการสนับสนุนขับเคลื่อนในการพัฒนา ชาวสวนยางจึงจำเป็นต้องจัดตั้งองค์กรทางการเมืองขึ้นมา เพื่อทำการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้มีการหารือในระดับเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อก่อตั้งพรรคการเมืองของชาวสวนยางโดยตรงแล้วที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเกิดความเข้มแข็ง โดยจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2556
“เกษตรกรชาวสวนยางจำเป็นต้องมีพรรคการเมือง แล้วจัดทำยุทธศาสตร์ยางใหม่ พัฒนายาง แปรรูปยาง ผลิตภัณฑ์ยาง ตลาดยาง โดยผลักดันออกมาเป็นนโยบายเพื่อจัดการบริหาร แต่สำหรับชื่อพรรคยังไม่สรุป แต่มีชื่อยางอยู่ด้วย”
นายจิโรจน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีสวนยางปลูกอยู่ทั่วประเทศจำนวน 65 จังหวัด จาก 77 จังหวัด และมีผู้ที่ยึดอาชีพเกี่ยวกับยางตั้งแต่คนกรีดยาง ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมแปรูป และพ่อค้าผู้ส่งออกยางไปยังต่างประเทศ จำนวน 15 ล้านคน โดยเฉพาะที่เป็นเกษตรกรชาวสวน จำนวนถึง 6 ล้านคน
“ปัญหายางมีมาตลอดไม่นิ่ง และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเกษตรกรชาวสวนยาง ส่วนพ่อค้า โรงงานอุตสาหกรรมยางพอสามารถยืดหยุ่นไปได้ การก่อตั้งพรรคการเมืองของชาวสวนยางจะเป็นพันธมิตร เช่น กับพรรคยางพาราไทย (ยพท.) ที่ได้ก่อตั้ง และเปิดตัวไปแล้วเพื่อมาทำงานร่วมกัน”
นายจิโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ยางแนวโน้มมีทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยทางสหรัฐอเมริกาสามารถฟื้นฟูประเทศได้ ทำให้ตลาดรถผลิตและขายได้ ยางที่คู่กับรถมีความต้องการในตลาดปริมาณเพิ่มขึ้น ยุโรป สภาพเศรษฐกิจคงที่แล้วโดยถึงจุดต่ำที่สุดแล้วไม่สามารถต่ำกว่าเป็นอยู่ได้แล้ว ประเทศจีนเริ่มมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และ 4 การที่ไทยงดการส่งออกยาง และเก็บไว้ในสต๊อกทำให้เข้าสู่ตลาดที่ถดถอยลง ตลอดจนถึงโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ราคากระเตื้องขึ้น
“แนวโน้มในปลายปีนี้ ราคายางจะขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 บาท/กก. ในส่วนของยางแผ่นดิบ เพราะฉะนั้น ยางที่รัฐบาลกักเก็บอยู่อย่าวู่วามปล่อยออกไปคราวทีละมากๆ ค่อยทยอยปล่อยแล้วจะไม่ล้นบ่าก็จะได้ราคาที่ดี”
ด้านนายเพิก เลิศวังศ์พง เจ้าของสวนยางจำนวน 70 ไร่ หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยพท.มีความพร้อมที่จะเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้ว และโดยขณะนี้ยังเดินหน้าหาสมาชิก และแจกจ่ายแผ่นพับ สติกเกอร์ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในพื้นที่โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และอีสาน ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน และเป็นพรรคมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อชาวสวนยางเป็นอันดับแรกมีความมั่นใจพรรคแนวทางทางเลือกใหม่ จะขยายตัวเติบโตอย่างกว้างในอนาคต
สำหรับ ยพท.มีความคาดหมายตามเป้าจะทำคะแนนให้ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนกว่า 6 ล้านเสียง จากชาวสวนยางพาราในสมัยเลือกตั้งทั่วไปที่จะถึงนี้ โดยจะขยายฐานเสียงให้ได้ปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ ขยายฐานเสียงระบบไดเรกต์เซลล์ ให้แต่ละจังหวัดดำเนินการกันเอง โดยนำเสนอนโยบายมา และผู้เป็นสมาชิกถือว่าเป็นหุ้นส่วนของพรรค นอกนั้นจะจัดตั้งยุวเกษตร และยุวสภาเกษตร
นายเพิก ยังกล่าวอีกว่า ที่มาของ ยพท.เป็นตัวจริงเป็นเกษตรกรชาวสวนยางจริง และเป้าหมายชัดเจนเลือกตั้งเสร็จมีจำนวน ส.ส.เท่าใด จะต้องการร่วมเป็นรัฐบาลก่อน ป็นรัฐบาลจะทำงานได้ และจะวางระบบชาวสวนยางทันที เนื่องจากยางเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องหมด
“สมัยที่จะถึงเลือกตั้งทั่วไป มีความพร้อมที่จะลงเลือกตั้ง และคาดหวังจะได้คะแนน 10 เปอร์เซ็นต์ จะมี ส.ส. จำนวน 4 ที่นั่ง หากได้จำนวนจากชาวสวนยางทั้งหมดกว่า 6 ล้านคน ก็จะได้ถึง 20 ที่นั่ง ตอนนี้พรรคมีจุดขาย และมีผู้บริโภคแล้ว เพียงกำลังดำเนินการความต้องการของผู้บริโภค แล้วทางพรรคจะผลิตสินค้าให้ได้ และเมื่อทางพรรคเข้มแข็งขยายตัว จะต่อสายไปยังกลุ่มชาวนา ชาวสวนต่างๆ ด้วย พรรคทางเลือกมีอนาคตข้างหน้า” นายเพิกกล่าว
นายจิโรจน์ หริรักษาพิทักษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดสงขลา เขต 2 (สกย.) เปิดเผยว่า ธุรกิจยางพาราไทยยังไม่มีรัฐบาลใดที่มีความสามารถบริหารได้ดี และจริงจัง และการวางมาตรการสนับสนุนขับเคลื่อนในการพัฒนา ชาวสวนยางจึงจำเป็นต้องจัดตั้งองค์กรทางการเมืองขึ้นมา เพื่อทำการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้มีการหารือในระดับเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อก่อตั้งพรรคการเมืองของชาวสวนยางโดยตรงแล้วที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเกิดความเข้มแข็ง โดยจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2556
“เกษตรกรชาวสวนยางจำเป็นต้องมีพรรคการเมือง แล้วจัดทำยุทธศาสตร์ยางใหม่ พัฒนายาง แปรรูปยาง ผลิตภัณฑ์ยาง ตลาดยาง โดยผลักดันออกมาเป็นนโยบายเพื่อจัดการบริหาร แต่สำหรับชื่อพรรคยังไม่สรุป แต่มีชื่อยางอยู่ด้วย”
นายจิโรจน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีสวนยางปลูกอยู่ทั่วประเทศจำนวน 65 จังหวัด จาก 77 จังหวัด และมีผู้ที่ยึดอาชีพเกี่ยวกับยางตั้งแต่คนกรีดยาง ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมแปรูป และพ่อค้าผู้ส่งออกยางไปยังต่างประเทศ จำนวน 15 ล้านคน โดยเฉพาะที่เป็นเกษตรกรชาวสวน จำนวนถึง 6 ล้านคน
“ปัญหายางมีมาตลอดไม่นิ่ง และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเกษตรกรชาวสวนยาง ส่วนพ่อค้า โรงงานอุตสาหกรรมยางพอสามารถยืดหยุ่นไปได้ การก่อตั้งพรรคการเมืองของชาวสวนยางจะเป็นพันธมิตร เช่น กับพรรคยางพาราไทย (ยพท.) ที่ได้ก่อตั้ง และเปิดตัวไปแล้วเพื่อมาทำงานร่วมกัน”
นายจิโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ยางแนวโน้มมีทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยทางสหรัฐอเมริกาสามารถฟื้นฟูประเทศได้ ทำให้ตลาดรถผลิตและขายได้ ยางที่คู่กับรถมีความต้องการในตลาดปริมาณเพิ่มขึ้น ยุโรป สภาพเศรษฐกิจคงที่แล้วโดยถึงจุดต่ำที่สุดแล้วไม่สามารถต่ำกว่าเป็นอยู่ได้แล้ว ประเทศจีนเริ่มมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และ 4 การที่ไทยงดการส่งออกยาง และเก็บไว้ในสต๊อกทำให้เข้าสู่ตลาดที่ถดถอยลง ตลอดจนถึงโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ราคากระเตื้องขึ้น
“แนวโน้มในปลายปีนี้ ราคายางจะขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 บาท/กก. ในส่วนของยางแผ่นดิบ เพราะฉะนั้น ยางที่รัฐบาลกักเก็บอยู่อย่าวู่วามปล่อยออกไปคราวทีละมากๆ ค่อยทยอยปล่อยแล้วจะไม่ล้นบ่าก็จะได้ราคาที่ดี”
ด้านนายเพิก เลิศวังศ์พง เจ้าของสวนยางจำนวน 70 ไร่ หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยพท.มีความพร้อมที่จะเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้ว และโดยขณะนี้ยังเดินหน้าหาสมาชิก และแจกจ่ายแผ่นพับ สติกเกอร์ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในพื้นที่โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และอีสาน ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน และเป็นพรรคมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อชาวสวนยางเป็นอันดับแรกมีความมั่นใจพรรคแนวทางทางเลือกใหม่ จะขยายตัวเติบโตอย่างกว้างในอนาคต
สำหรับ ยพท.มีความคาดหมายตามเป้าจะทำคะแนนให้ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนกว่า 6 ล้านเสียง จากชาวสวนยางพาราในสมัยเลือกตั้งทั่วไปที่จะถึงนี้ โดยจะขยายฐานเสียงให้ได้ปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ ขยายฐานเสียงระบบไดเรกต์เซลล์ ให้แต่ละจังหวัดดำเนินการกันเอง โดยนำเสนอนโยบายมา และผู้เป็นสมาชิกถือว่าเป็นหุ้นส่วนของพรรค นอกนั้นจะจัดตั้งยุวเกษตร และยุวสภาเกษตร
นายเพิก ยังกล่าวอีกว่า ที่มาของ ยพท.เป็นตัวจริงเป็นเกษตรกรชาวสวนยางจริง และเป้าหมายชัดเจนเลือกตั้งเสร็จมีจำนวน ส.ส.เท่าใด จะต้องการร่วมเป็นรัฐบาลก่อน ป็นรัฐบาลจะทำงานได้ และจะวางระบบชาวสวนยางทันที เนื่องจากยางเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องหมด
“สมัยที่จะถึงเลือกตั้งทั่วไป มีความพร้อมที่จะลงเลือกตั้ง และคาดหวังจะได้คะแนน 10 เปอร์เซ็นต์ จะมี ส.ส. จำนวน 4 ที่นั่ง หากได้จำนวนจากชาวสวนยางทั้งหมดกว่า 6 ล้านคน ก็จะได้ถึง 20 ที่นั่ง ตอนนี้พรรคมีจุดขาย และมีผู้บริโภคแล้ว เพียงกำลังดำเนินการความต้องการของผู้บริโภค แล้วทางพรรคจะผลิตสินค้าให้ได้ และเมื่อทางพรรคเข้มแข็งขยายตัว จะต่อสายไปยังกลุ่มชาวนา ชาวสวนต่างๆ ด้วย พรรคทางเลือกมีอนาคตข้างหน้า” นายเพิกกล่าว