“สุกำพล” ตอกก๊วนแดงขวางปรองดองด่า “นช.แม้ว” ลั่นต้องให้เกียรติกัน พร้อมปัดนายใหญ่ซูเอี๋ยอำมาตย์ ชี้พฤติกรรมรัฐบาลที่ผ่านมาแค่การแสดงท่าที ติงก๊กแดงอย่าคิดเอาเอง ขณะเดียวกันปฏิเสธแก้กฎหมายพา “ทักษิณ” กลับ ส่วนการตั้งหมู่บ้านแดงไม่กระทบความมั่นคง
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นสิ่งที่คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องธรรมดาเราคงห้ามไม่ได้ แต่เรามีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน แต่วิธีการอาจเดินไม่เหมือนกัน ดังนั้น เรื่องนี้ต้องเข้าใจและให้เกียรติผู้ที่ดำเนินการ ไม่ใช่ว่าไม่ให้เกียรติกัน แล้วจะเอาอย่างนี้จะต้องทำตามนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ใครมีหน้าที่ก็ต้องปล่อยเขาไปเพื่อให้ไปสู่จุดมุ่งเดียวกัน จะบอกว่าไม่มีการปรองดองหรือไม่คุยกันเลยเป็นไปไม่ได้
“วันนี้กระแสส่วนมากต้องการให้มาพูดคุยกัน แต่การปรองดองเป็นความคิดในขณะนี้ ซึ่งบางส่วนพูดได้ แต่การกระทำสำคัญที่สุดว่าแสดงออกมาถึงความปรองดองหรือไม่ พูดกันได้ว่า อยากปรองดอง แต่ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ปรองดอง ดังนั้นการกระทำกับคำพูดต้องสอดคล้องกัน ก็ดูว่าใครทำไม่ทำอย่างไร”
ส่วนที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงวันอาทิตย์ ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีการพูดคุยและไปซูเอี๋ยกับฝ่ายอำมาตย์เรียบร้อยแล้วนั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่เคยได้ยินข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้คุยกับทางอำมาตย์ อย่าไปคิดเอาเอง เป็นแค่การแสดงท่าที เหมือนกับรถไฟเมื่อมีทางเส้นขนานก็ต้องมีการตัดกันบ้างและมาพบกัน เป็นการแสดงท่าทีที่ดีที่เป็นบวกอย่าไปคิดว่าไปซูเอี๋ยกัน วันนี้ถ้าไม่คุยกันก็เป็นแบบนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องปรองดอง เพราะนายกรัฐมนตรีได้ให้เป็นนโยบายและต้องทำแน่ และท่านต้องเดินให้มั่นคง
“สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เป็นตัวขัดขวางก็ต้องแก้ไป ซึ่งเราต้องปรองดอง และเห็นตรงกัน ไม่เช่นนั้นชาติอยู่ไม่ได้ เพราะเป้าหมายที่รัฐบาลมองใหญ่กว่า คือ ชาติต้องมั่นคง ตอนนี้จีดีพีดีอยู่ในระดับสูงมาก ทุกอย่างก็ดี สิ่งแวดล้อมดีหมด ขาดแต่คนเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ออกมาจากปากทุกคนคืออยากปรองดอง แต่จะทำให้เห็นตามที่พูดหรือไม่ นั่นคือสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลก็แบไต๋แล้วว่าอยากปรองดอง พยายามทำทุกอย่าง แต่การตอบรับถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คิดว่าเรื่องดังกล่าวคงไม่เกี่ยวกับเรื่องฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณถึงการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกัน ส่วนจะกลับมาตอนไหนคงตอบไม่ได้ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้กีดมากันคนคนเดียวไม่ให้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ไม่ใช่พยายามบอกว่าเป็นการแก้กฎหมายเพื่อให้คนคนเดียวกลับมา คงไม่ได้ ไม่มีใครทำแบบนั้น การตั้งพรรคการเมืองรัฐบาลต้องมองระยะยาวเหมือนกัน ไม่ใช่มาทำเพื่อคนเดียว เดี๋ยวตายกันหมด แต่ท่านคนเดียวเสียสละได้เพื่อส่วนร่วม ซึ่งหากพร้อมท่านคงกลับมา แต่ถามว่าอยากกลับหรือไม่ คิดว่าเมื่อไปอยู่ต่างประเทศนานๆ ก็คงอยากกลับเหมือนกัน ถ้าเป็นตนก็จะให้เข้ามาเพื่อพูดคุยถึงปัญหา เห็นหน้าเห็นตากัน ดีกว่าไปกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งท่านอายุมากกว่าตน 2 ปี ถือเป็นคนแก่ไม่มีแรงแล้วอย่าคิดมาก
ส่วนการตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงจะกระทบกับความมั่นคงหรือไม่นั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ได้รับรายงานเช่นกัน ซึ่งจุดประสงค์ของเขาชัดเจน ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ส่วนที่ไปตั้งในพื้นที่ภาคใต้ เราก็เป็นห่วงว่าไปตั้งในพื้นที่แบบนั้นจะปลอดภัยหรือไม่ แต่เขาไปตั้งเพื่อต้านยาเสพติด รณรงค์ประชาธิปไตย และความสามัคคี และต้องดูว่าการที่ตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงแล้วจะทำตามที่พูดหรือไม่ เขาไม่ได้ตั้งเพื่อปล้นไปฆ่าใคร แต่เรื่องนี้หน่วยงานความมั่นคงก็ดูแลอยู่ แต่คงไม่กระทบความมั่นคง เป็นเพียงความหมั่นไส้ของคน 2 คน ไม่เป็นผลต่อชาติ
สำหรับการเพิ่มงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมนั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เรามีพันธะผูกพันการจ่ายเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรีที่ต้องให้ได้ 15,000 บาท และผู้ที่ไม่ได้จบปริญญาตรี 9,000 บาท ตามนโยบายรัฐบาล นั่นคือส่วนที่เพิ่มขึ้นมา ส่วนงบด้านการสร้างความปรองดองของกองทัพนั้นจะให้เหล่าทัพจัดกิจกรรม เช่น การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การอารักขา ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากเพราะกิจกรรมเป็นนามธรรม แต่จะมีผู้มาตรวจสอบ ส่วนเรื่องการปรองดองก็จะมีรายละเอียดว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้ความรู้คนในชาติ ส่งเสริมประชาธิปไตย
