ปัตตานี - “เสี่ยโจ้” พ่อค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ส่งทนายติดต่อเจ้าหน้าที่ รับปากจะเข้ามอบตัวเสาร์นี้ หลังถูกทลายรังพบบัญชีส่วยเดือนละ 16 ล้าน เผยมีเรือยนต์ดัดแปลงบรรทุกน้ำมัน 10 ลำถูกอายัดรอตรวจสอบ ส่วนประเด็นนักข่าวรับส่วย ตร.ระบุให้องค์กรสื่อมวลชนตรวจสอบด้วยกันเอง
วันนี้ (18 ต.ค.) พ.อ.จตุพร กลัมพสุต หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พ.ต.อ.อมรเทพ อรุโนประโยชน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ผอ.ศปพ.จชต.) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมกองกำลังทหารพรานค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เข้าตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม กรณีการติดตามจับกุมนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 103/49 ถ.นาเกลือ ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ตามหมายจับของดีเอสไอในข้อหาหลบเลี่ยงภาษีสรรพากร แต่เจ้าตัวไหวตัวทันจึงไม่สามารถควบคุมตัวได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจพบสิ่งผิดกฎหมายหลายรายการ และบางอย่างต้องรอการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลาง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาไว้ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องการครอบครองแผ่นซีดีลามกที่ตรวจยึดไว้ภายในบ้านหรือสำนักงานดังกล่าว จำนวน 2,500 แผ่น โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เป็นแผ่นซีดีที่เตรียมไว้ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ และคดีแจกโพยบ่อนการพนัน โดยตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีการเปิดบ่อนกลางน้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
พ.อ.จตุพร กลัมพสุต หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของการจับกุมไม้เถื่อน และน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันของคณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าฯ และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังตรวจพบว่าผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวเงินในบัญชี และเงินนอกระบบหลายร้อยล้านบาท รวมทั้งมีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีสรรพากรด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะไม้เถื่อน และรถยนต์บรรทุกสิบล้อติดแท็งก์บรรจุน้ำมัน จำนวน 2 คัน รถห้องเย็นสิบล้อที่ถูกดัดแปลงเป็นรถบรรทุกน้ำมัน จำนวน 2 คัน นอกจากนั้น ยังพบมีเรือยนต์ขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงเพื่อใช้บรรทุกน้ำมัน จำนวน 10 ลำ เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดของกลางทั้งหมดไว้รอการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลาง เพื่อพิสูจน์ว่าใช้เพื่อบรรทุกน้ำมันเถื่อนหรือไม่ และล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ปรากฏว่ารถบรรทุกทั้ง 2 คัน ได้หายจากโรงงานไม้ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอาจมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการย้ายรถบรรทุกในครั้งนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้ายังพบเอกสารจำนวนหนึ่งได้ถูกเผาทิ้งกลางลานของโรงงาน แต่โชคดีไฟไหม้ไม่หมดเพราะช่วงเช้าของวันนี้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจสอบว่าเป็นเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายเงิน ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบเอกสารบัญชีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานปราบปรามทางทะเลในพื้นที่ จ.ตราด และ จ.ระยอง เป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท จากการตรวจสอบจำนวนยอดเงินที่จ่ายผลประโยชน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนในพื้นที่ รวมกันไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาทต่อเดือน
“นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “เสี่ยโจ้” ขณะนี้ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และได้ส่งนายวินิจ นราธิปภัทร ทนายความส่วนตัว เข้ามารับทราบขั้นตอนของการดำเนินการเจ้าหน้าที่ และรับที่จะนำผู้ต้องหามามอบตัวให้แก่เจ้าหน้าที่คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าฯ และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันเสาร์นี้ ส่วนเรื่องที่มีนักข่าวเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ในครั้งนี้ ก็อยากให้องค์กรสื่อมวลชนเข้ามาตรวจสอบกันเองว่าเป็นใคร น่าจะหาไม่ยาก” พ.อ.จตุพรกล่าว