ยะลา - พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ผนึกกำลัง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 แก้ปัญหาชายแดนใต้ พร้อมส่งหน่วยสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เพื่อนำผู้กระทำความผิดในคดีความมั่นคงมาลงโทษ ขณะเดียวกัน ได้เยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ซึ่งยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ. ยะรัง จ. ปัตตานี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.วีระพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และเจ้าหน้าที่ เพื่อร่วมพบปะหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกัน
โดยภายหลังการประชุมพบปะหารือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อพบปะหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้กับแม่ทัพภาคที่ 4 และมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งเน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติงานต่อกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างจริงจัง และเด็ดขาด โดยการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ
โดยทางตำรวจจะเข้ามาร่วมงานกับทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการเสริมการปฏิบัติตามกรอบแผนการปฏิบัติร่วมกัน และจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดที่มีอยู่มาเสริมให้ทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งด้านการข่าว และการสืบสวนสอบสวน รวมถึงยุทธการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายเป็นผู้รับผิดชอบ ในการจัดทีมสืบสวนสอบสวนพิเศษลงพื้นที่เพื่อทำงานควบคู่กับเจ้าหน้าที่ทหารในการปฏิบัติต่อผู้ที่ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะทำให้การปฏิบัติงานเกิดความเข้มแข็ง และเกิดการประสานงานระหว่างกันมากขึ้นจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีความมั่นคงมาลงโทษ
ทางด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ว่า ขณะนี้ มีความต้องการผู้ที่มีทักษะทางด้านสืบสวนสอบสวน ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบกำลังส่วนนี้มาแล้ว และทางตำรวจก็จะเป็นผู้นำในการดำเนินการ เพราะในส่วนของทหาร จะมีทักษะในเรื่องยุทธวิธี และการใช้กำลัง หากมีการทำงานร่วมกันจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการเปิดทางถอยให้กลุ่มผู้หลงผิด เช่น การเปิดเวทีพูดคุยสันติภาพ เชื่อว่าความตั้งใจ และความปรารถนาดีจะทำให้ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุลดลง
และในวันเดียวกัน ยังได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลยะลา เขตเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยะลา ซึ่งยังคงนอนพักรักษาตัวที่ รพ.ยะลา
โดย ผบ.ตร.และคณะ ได้เข้าเยี่ยมอาการของ ร.ต.ท.ธนวัฒน์ บุญมาก รอง สว.สภ.ปะแต ส.ต.อ.เปาซี สาแม ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ปะแต ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ ขณะกำลังเดินทางไปส่งตัวผู้ต้องหา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ต.ค.) โดยเหตุเกิดบนถนนสายบ้านเนียง-ยะหา ม.3 ต.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมทั้งได้ให้กำลังใจ และมอบกระเช้าเยี่ยมและเงินช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ ซึ่งอาการโดยรวมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้เข้าเยี่ยมอาการของ ด.ต.มูหะมะ การ์เด ผบ.หมู่ ป.สายบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดที่ อ.สายบุรี และส่งมารักษาตัวที่ รพ.ยะลา โดย ผบ.ตร. ได้มอบเงินช่วยเหลือ และกระเช้าเยี่ยมเพื่อบำรุงขวัญแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว