ตรัง - ชาวสวนยางตรังเดือดร้อนหนัก หลังรัฐบาลไม่ยอมจ่ายเงินกว่า 400 ล้าน ในโครงการแทรกแซงราคายาง เตรียมยกพลขึ้นกรุงเทพฯ โดยจะสมทบกับจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ เพื่อไปที่ทำเนียบรัฐบาลพบ รมช.ณัฐวุฒิ 9 ต.ค.นี้ จี้ให้เร่งแก้ไขปัญหาด่วน
นายอุทัย ศรีเทพ ประธานชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา จ.ตรัง ได้รับซื้อยางแผ่นรมควันวันละ 3,000 ตัน แต่ในจำนวนนี้ มียางแผ่นดิบจากจังหวัดอื่นเข้ามาแทรกแซงขายในพื้นที่ถึง 2,000 ตัน แม้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาราคายาง จ.ตรัง จะพยายามแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีอำนาจที่จะสั่งห้ามยางจากที่อื่นเข้ามาขายในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.ตรัง ต้องสูญเสียรายได้ถึง 18 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทที่รับซื้อยางยังไม่ยอมรับซื้อยางจาก อสย. แต่กลับไปรับซื้อจากโรงงานแทน เนื่องจากเป็นยางแผ่นดิบคุณภาพชั้น 3 เมื่อนำไปอัดก้อนจะเกิดปัญหายางไม่มีคุณภาพ และต่างประเทศไม่รับซื้อ
ทั้งนี้ ปัญหาความเดือดร้อนจากโครงการแทรกแซงราคายางนั้น ส่วนใหญ่เป็นในเรื่องที่ยังไม่ได้รับเงินที่ขายยางจากรัฐบาล รวม 453 ล้านบาท โดยแยกเป็นสหกรณ์การเกษตร อ.ย่านตาขาว 108 ล้านบาท ชุมนุมสหกรณ์ตรัง 140 ล้านบาท และสหกรณ์ลูกค้าเพื่อธนาคารเพื่อการเกษตรตรัง จำกัด (สกต.) 105 ล้านบาท ซึ่งจะมีการรวบรวมปัญหาส่งไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง คณะกรรมการกองทุนสวนยาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 4 แห่ง เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน
ทั้ง 50 แห่ง รวมประมาณ 50 คน จะนัดรวมพลกันที่โรงงานคอมปาวชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง หมู่ที่ 1 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง เพื่อออกเดินทางไปร่วมชุมนุมกับเครือข่าย จ.พัทลุง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในวันที่ 9 ต.ค. ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดจ่ายเงินที่ยังค้างกับสหกรณ์ต่างๆ ใน จ.ตรัง จำนวน 453 ล้านบาท รวมทั้งขอให้โรงอัดก้อนรับอัดก้อนเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยาง จ.ตรัง เท่านั้น
ด้าน นางนุชรินทร์ อยู่อำไพ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร อ.ย่านตาขาว กล่าวว่า ที่ผ่านมา เกษตรกรชาวสวนยางได้ขายยางแผ่นดิบให้แก่รัฐบาลตามโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางไปแล้ว 45 วัน แต่จนถึงวันนี้ ยังคงค้างจ่ายเงินให้แก่ชาวสวนยางใน อ.ย่านตาขาว อีก 108 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้ สหกรณ์การเกษตร อ.ย่านตาขาว กำลังประสบกับปัญหาความเดือดร้อน เพราะไม่มีเงินหมุนเวียนไปจ่ายให้แก่ สกย. ประกอบกับเศษยาง และยางฟองที่รับซื้อมาจากเกษตรกรแล้ว ทางบริษัท ศรีตรังแอรโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หนึ่งโรงงานที่เข้าร่วมโครงการกลับปฏิเสธที่จะรับซื้อ ทั้งที่ในสัญญาที่ทำไว้ระบุว่าจะต้องรับซื้อยางทุกชนิด
ส่วนยางฟองที่รับซื้อ กก.ละ 98 บาท หากเก็บไว้นานเกิน 7 วัน ก็จะทำให้ขึ้นรา และมีราคาลดลงเหลือ กก.ละ 94 บาท ทางสหกรณ์จึงต้องแก้ปัญหาโดยการนำยางแผ่นรมควันไปอัดก้อนส่งขาย อสย. แต่ด้วยปริมาณยางที่มีมากถึง 220,000 กก. ทำให้ไม่มีโกดังเก็บยางที่เพียงพอ และค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สหกรณ์ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยที่รัฐบาลไม่ได้จ่ายค่าชดเชยให้เหมือนกับโครงการประกันราคาข้าว ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังรอการแก้ไขโดยเร่งด่วน
