“ณัฐวุฒิ” ชิ่งหนีชาวสวนยางบุกทำเนียบฯ จี้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาตกต่ำ ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับหนังสือแทน อ้างไปหารืออินโดฯ แล้ว ทราบว่าราคาตกต่ำเหมือนกันหมด เตรียมบินถกมาเลย์ขอความร่วมมือลดปริมาณส่งออก จากนั้นจะหารือเวียดนามร่วมรักษาเสถียรภาพราคา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (4 ก.ย.) ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายเกษตรกรสวนยางพารา มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ในจังหวัดชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 500 คน นำโดยนายนันทปรีชา คำทอง ผู้ประสานงานเครือข่าย เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาราคายางพารา มะพร้าว และปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำ เนื่องจากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนและการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ใช้มาตรการแทรกแซงราคาที่ล้มเหลว ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะยางพาราที่รัฐบาลใช้งบประมาณจำนวนถึง 15,000 ล้านบาท แต่เป็นการเอื้อประโยชน์แก่เกษตรกรบางกลุ่ม
นายนันทปรีชากล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการผลักดันให้ราคาสินค้าทางการเกษตรสูงขึ้น โดยให้ยางพาราจาก กก.ละ 73 บาท เป็น กก.ละ 120 บาท โดยไม่คัดเกรด, ยกเลิกการนำเข้ามะพร้าว และให้ประกันราคามะพร้าวลูกละ 12 บาท ราคามะพร้าวแห้ง กก.ละ 21 บาท, ขอให้ผลักดันราคาปาล์มน้ำมัน ให้ถึง กก.ละ 6 บาท โดยกลุ่มจะรอความชัดเจนจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหากไม่มีผลใดๆ ออกมาจะชุมนุมต่อเนื่องและจะมีผู้ร่วมชมนุมเข้ามาสมทบเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวไม่มีตัวแทนจาก ครม.ไปรับหนังสือแต่อย่างใด แต่ได้มอบหมายให้ตัวแทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ประสานงานกับผู้ชุมนุมแทน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ได้รับมอบหมายให้แก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับทราบความเคลื่อนไหวและประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการและรับเรื่องแล้ว โดยตนจะไม่ออกไปรับเรื่องด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ปัญหาเราได้เดินหน้ามาตลอด ขณะนี้ก็ใช้มาตรการทั้งในประเทศและกลไกระหว่างประเทศ และตนก็เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวัน 1 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าของอินโดนีเซีย ก็เห็นตรงกันว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นภาวะการณ์ที่โลกของยางพาราได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาและเป็นอย่างนี้เหมือนกันทุกประเทศ
โดยประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียได้เห็นตรงกันว่าจะต้องจับมือกันอย่างเข้มแข็งและเคลื่อนไหวกันอย่างเป็นเอกภาพ ขณะเดียวกันเราก็จะไปหารือกับประเทศเวียดนามที่เป็นประเทศผลิตยางพาราเป็นอันดับ 4 ของโลกเพื่อเชิญเข้ามาร่วมกลไกความร่วมมือเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคายาวพาราและกำหนดยุทธศาสตร์กันในอนาคต และหากเวียดนามเห็นตรงกันจะมีการประสานกับทางการจีนเรื่องยุทธศาสตร์ยางพาราเพื่อทำให้มีการสอดรับกันด้วย
ทั้งนี้ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ตนจะเดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อจะหารือกับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องยางพาราในการกระชับความร่วมมือและเดินหน้าลดปริมาณการส่งออก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร เนื่องจากสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำมีความยืดเยื้อ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ต้องใช้เวลาและเชื่อว่าพี่น้องเกษตรกรเข้าใจสถานการณ์นี้ เพียงแต่ต้องการจะส่งเสียงความเดือดร้อนและเร่งรัดให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา ซึ่งเราก็เดินหน้าตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อถามว่า อีกนานเท่าใดกว่าจะได้ผล เพราะมีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สถานการณ์ในภาพรวมยังไม่ปรากฏปัจจัยบวกที่ชัดเจน แต่จากการที่พูดคุยสภายางพาราไตรภาคี เราคาดหวังว่าภายใต้การจับมือกันของ 3 ประเทศน่าจะขยับราคายางพาราให้สูงขึ้นและรักษาเสถียรภาพให้ได้ โดยจะมีการประเมินราคายางพาราในสัปดาห์นี้ว่า หากเป็นบวกก็แสดงว่ามาตรการนี้ส่งผลในตลาดโลกนี้ แต่หากมาตรการนี้ไม่สามารถกำหนดราคาได้ก็คงจะต้องกำหนดมาตรการอื่นๆ เช่น เพิ่มปริมาณที่จะลดการส่งออก เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปพบปะกับผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องราคายางพาราตกต่ำที่อยู่ด้านนอกทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ประสานงานอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเกษตรกรส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์ และการที่รัฐบาลรับภาระเพื่อลดผลกระทบโดยการยืนราคารับซื้ออยู่ 100 บาท/กก. ก็มีส่วนต่างจากราคาในตลาดอยู่พอสมควร เมื่อถามย้ำว่าจะไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่เพื่อให้เกษตรกรสบายใจ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ได้ไปหารือแล้ว