นครศรีธรรมราช - ชาวประมงนครศรีธรรมราชใช้เรือประมงขนาดเล็กกว่า 100 ลำ ปิดร่องน้ำปากอ่าวปากพนังประท้วงการรื้อถอนทำลายโพงพางของประมงจังหวัด เรียกร้องให้อธิบดีกรมประมงมาเจรจาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเจรจา
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณร่องน้ำปากพนัง ปากอ่าวนครศรีธรรมราช รอยต่อระหว่าง อ.เมืองนครศรีธรรมราช และ อ.ปากพนัง ชาวประมงที่ใช้วิธีการทำประมงแบบโพงพางร่องน้ำกว่า 100 คน ได้ใช้เรือประมงขนาดเล็กกว่า 100 ลำ มาจอดเรียงแถวปิดปากร่องน้ำปากพนัง เพื่อประท้วงการรื้อถอนทำลายอุปกรณ์โพงพางของชาวประมงโดยประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งยังไม่ได้มีการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาเครื่องมือประมงที่เสียหาย รวมทั้งหาทางออกให้ชาวบ้านไปประกอบอาชีพอย่างอื่น ส่งผลให้เรือขนาดใหญ่ที่สัญจรผ่านร่องน้ำปากพนังเข้าสู่แม่น้ำปากพนังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ต้องทอดสมอกลางทะเล โดยที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนจากหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องเข้าเจรจาเพื่อยุติการปิดร่องน้ำแต่อย่างใด
นายเสวียน สงค์พราหมณ์ อายุ 40 ปี ชาว ม.6 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หนึ่งในชาวประมงที่นำเรือมาจอดปิดร่องน้ำประท้วง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำลายอุปกรณ์เครื่องมือการทำประมงแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ขณะที่ไม่ได้จัดการเรื่องอาชีพอื่นมารองรับการทำประมงของชาวบ้านที่สืบต่อมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ขอให้อธิบดีกรมประมงลงเรือมาเจรจาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ของชาวประมงอย่างชัดเจน
เช่นเดียวกันกับ นายนคร บัวสมัด อายุ 43 ปี ชาว ม.9 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า ชาวบ้านไม่สามารถทำงานอย่างอื่นได้หากไม่ได้รับการอุดหนุนส่งเสริม ทำอาชีพประมงก็ไม่ได้ จะขึ้นไปหากินบนป่าชายเลนก็ถูกจับกุม จึงยังไม่มีทางออก ขอให้ทางการลงมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน และให้มาพูดคุยกันกลางทะเลตรงนี้จะได้รู้ว่าวิถีการทำประมงนั้นมันลำบากขนาดไหน ซึ่งหากไม่มาเจรจาเราจะปิดร่องน้ำเช่นนี้ต่อไป โดยชาวประมงทุกคนตรงนี้ยอมตายเพราะต้องหาเช้ากินค่ำ เมื่อไม่มีอาชีพชีวิตก็จบ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้พยายามติดต่อกับนางอารีย์ อินทรสมบัติ ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนการปิดอ่าวนั้นยังคงดำเนินต่อไป โดยชาวประมงได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำเรือมาจอด และปักหลักพักค้างคืนยังปากร่องน้ำกลางทะเลดังกล่าวจนกว่าจะมีการแก้ปัญหา