ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กระทรวงคมนาคมปรับแผนลงทุนระบบคมนาคม มุ่งสู่ระบบรางถึง 60% ของงบประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท หวังลดต้นทุนให้เหลือ 12% ของ GDP พร้อมเร่งแก้ปัญหาการจราจรในภูเก็ต ทั้งเจาะอุโมงค์ป่าตอง ทำทางลอดตามแยกต่างๆ
วันนี้ (5 ต.ค.) กระทรวงคมนาคม จัดเสวนาโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ และร่วมรับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคม พ.ศ.2556-2563 ขึ้นที่โรงแรมเมโทรโพล จังหวัดภูเก็ต มีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการเสวนา และผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน กว่า 300 คน เข้าร่วมการเสวนา
เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และมีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ พ.ศ.2556-2563 ซึ่งมีวงเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท ครอบคลุมทั้งการขนส่งทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีก 10-15 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 โดยให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม เช่น การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทาง โดยเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสาย พัฒนาการขนส่งทางน้ำ และกิจการพาณิชยนาวี และพัฒนาท่าอากาศยานสากล ท่าอากาศยานภูมิภาค และอุตสาหกรรมการบินของไทย พร้อมทั้งรองรับการเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 โดยรัฐบาลได้จัดทำแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ พ.ศ.2556-2563 วงเงินลงทุน 1.9 ล้านล้านบาท ครอบคลุมทั้งการขนส่งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีก 10-15 ปีข้างหน้า
โดยการลงทุนในงปบระมาณ 1.9 ล้านล้านบาทนั้นจะปรับเปลี่ยนจากการลงทุนระบบคมนาคมทางบกเป็นระบบรางแทน โดยจะเน้นไปที่การลงทุนคมนาคมระบบราง ประมาณ 60% ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนการขนส่งจาก 15.2% ให้เหลือ 12% ของ GDP ภายใน 5 ปี ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟฟ้า 10 สายในกรุงเทพฯ รถไฟรางคู่ ที่จะต้องดำเนินการ 6 โครงการ ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและเสริมความความแกร่ง ส่วนงบประมาณอีก 30% จะลงทุนระบบคมนาคมทางถนน และอีก 10%จะดำเนินการทางน้ำและทางอากาศ ด้วยการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ส่วนทางน้ำจะมีการปรับปรุงท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น
สำหรับเงินลงทุนนั้นจะมาจากการตั้งกองทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า กรมทางหลวงได้เข้ามาก่อสร้างถนนในภูเก็ตหลายสายเพื่อเชื่อมแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถนนสาย ก.ที่ป่าตอง ซึ่งจะเสร็จในปลายปี 2556 นี้ ถนนคลองเกาะผีที่เชื่อมระหว่างสะพานหินกับถนนศักดิเดช ซึ่งได้บรรจุอยู่ใน พ.ร.บ.งบประมาณปี 2556 แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอใช้ที่ป่าจากกรมป่าไม้ และคาดว่าประมาณเดือน พ.ย.นี้จะสามารถหาผู้รับเหมาได้
ขณะที่นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การทางพิเศษฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการแก้ปัญหาการจราจรจังหวัดภูเก็ต ในโครงการขุดอุโมงค์ป่าตอง เชื่อมระหว่างฝั่งกะทู้กับป่าตอง ด้วยการทำเป็นทางลอดข้ามเข้าป่าตองระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร 4 ช่องทางจราจร และมีช่องจักรยานยนต์เพื่อรองรับการใช้รถจักรยานยนต์ที่มีเป็นจำนวนมากในจังหวัดภูเก็ต
โดยทางการทางพิเศษฯ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการ ใช้เวลา 15 เดือน ซึ่งจะเสร็จภายในปี 2557 หลังจากนั้นก็จะมีการเวนคืนที่ดินอีก 1 ปี และก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 อย่างแน่นอน
นายศักดิ์ชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงกระบี่ (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า กรมทางหลวงได้พัฒนาระบบการคมนาคมทางถนนเพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน โดยเริ่มจากสนามบินภูเก็ต มีการขยายถนนเชื่อมระหว่างสนามบินกับถนนเทพกระษัตรีเป็นถนน 4 เลน รวมทั้งมีการศึกษาแก้ปัญหาการจราจรติดขัดตามแยกต่างๆ ในภูเก็ต เช่น ที่บริเวณแยกสนามบิน ที่จะทำเป็นทางลอด หรือสะพานข้าม งบประมาณ 500 ล้านบาท การแก้ปัญหาที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบรายละเอียด ทำให้ลักษณะคล้ายกับทำเป็นอุโมงค์ลอด หรือสะพานข้ามคล้ายที่วงเวียนหลัก 4 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออนุสาวรีย์ฯ คาดต้องใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท
การแก้ปัญหาการจราจรที่บริเวณสามแยกบางคู จากการศึกษาจะทำเป็นอุโมงค์ลอดไปทางด้านขวาเพื่อไปยังถนนบายพาส รวมทั้งการแก้ปัญหาการจราจรที่บริเวณสี่แยกโลตัสที่จะทำเป็นอุโมงค์ งบประมาณ 800 ล้านบาท และที่บริเวณสี่แยกไทนานที่จะดำเนินการในเร็วๆ นี้ด้วยงบประมาณ 600 ล้านบาท เป็นเวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งเมื่อสามารถแก้ปัญหาได้ทุกจุดแล้วจะทำให้การเดินทางในภูเก็ตสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นายศักดิ์ชัย กล่าวเพิ่มว่า กรมทางหลวงมีโครงการที่จะก่อสร้างถนนจากบริเวณสามแยกโคกกลอย ไปยังเขาหลัก จ.พังงา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้ยังเป็นถนน 2 ช่องจราจร เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางจากสนามบินไปเขาหลักใช้เวลาประมาณ 45 นาที
.
