นครศรีธรรมราช - เผยประวัตินักโทษแหกตรวนหนีสุดแสบ พยายามแหกคุกหลายครั้งช่วงต้องคดีปล้นและอาวุธสงครามเมื่อกว่า 10 ปีก่อน พบข้อมูลญาติเยี่ยมที่ รพ.ได้อย่างต่อเนื่องก่อนหลบหนี ฉวยโอกาสซุกใบเลื่อยได้ตลอดเวลา ส่วนเรือนจำทุ่งสงตั้งกรรมการสอบสวนวินัยผู้คุมแล้ว
กรณี นายบุญเริง ระวัง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518 ม.7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นักโทษในคดีความผิด พ.ร.บ.มีอาวุธปืนสงคราม และกระสุนปืนที่ใช้ในราชการไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และคดียาเสพติดรายสำคัญ ได้ตัดโซ่ตรวนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลทุ่งสง ขณะถูกคุมตัวมารับการรักษาตัวเนื่องจากถูกนักโทษด้วยกันแทงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (4 ต.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำในการติดตามไล่ล่านักโทษรายนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนั้น พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับเพิ่มเติมในคดีหลบหนีการควบคุมของเจ้าพนักงาน และสอบสวนต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบกพร่องของผู้ใดหรือไม่ประการใด โดยในส่วนของคดีนั้นได้รับเป็นคดีอาญาเรียบร้อยแล้วอยู่ในชั้นของการสอบสวน โดยขณะนี้ได้เรียกผู้คุมที่เข้าเวรระวังควบคุมนักโทษในขณะนั้นมาสอบปากคำ
“เราได้รวบรวมข้อมูลพบว่านายบุญเริงได้มีญาติมาเยี่ยมได้อย่างอิสระ วันหนึ่งๆ มีผู้มาเยี่ยมนายบุญเริงหลายราย อาจเป็นช่วงไหนก็ได้ที่ญาติหรือพรรคพวกนำเอาใบเลื่อยมาให้ จนนายบุญเริงอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอตัดตรวนแล้วหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดจับภาพได้เล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมุมกล้องก้มลงต่ำมากเกินไป หลังจากนั้นเข้าใจว่าหลบออกไปทางหลังของโรงพยาบาล โดยนัดหมายกับสมัครพรรคพวกมารอรับหลบหนีอยู่แล้ว”
พ.ต.อ.ธรรมนูญกล่าวต่อว่า ได้ตรวจสอบประวัตินักโทษรายนี้พบว่ามีประวัติที่ร้ายกาจ อาจเคยต้องโทษคดีอาวุธสงคราม พยายามหลบหนีการควบคุมของเรือนจำเมื่อปี 2534 และต้องโทษคดีปล้นทรัพย์ พยายามหลบหนีจากเรือนจำเดียวกันเมื่อปี 2537 เจ้าหน้าที่ได้ตามจับกุมมาจองจำได้ทั้ง 2 ครั้ง ก่อนที่จะมาถูกจับกุมอีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ในคดีอาวุธสงครามจำนวนมาก ผกก.สภ.ทุ่งสงกล่าวในที่สุด
ส่วนทางด้านเรือนจำทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการจัดชุดปฏิบัติการเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการไล่ล่านักโทษรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว ขณะเดียวกันได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยตามขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ต่อไปแล้ว
กรณี นายบุญเริง ระวัง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518 ม.7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นักโทษในคดีความผิด พ.ร.บ.มีอาวุธปืนสงคราม และกระสุนปืนที่ใช้ในราชการไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และคดียาเสพติดรายสำคัญ ได้ตัดโซ่ตรวนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลทุ่งสง ขณะถูกคุมตัวมารับการรักษาตัวเนื่องจากถูกนักโทษด้วยกันแทงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (4 ต.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำในการติดตามไล่ล่านักโทษรายนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนั้น พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับเพิ่มเติมในคดีหลบหนีการควบคุมของเจ้าพนักงาน และสอบสวนต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบกพร่องของผู้ใดหรือไม่ประการใด โดยในส่วนของคดีนั้นได้รับเป็นคดีอาญาเรียบร้อยแล้วอยู่ในชั้นของการสอบสวน โดยขณะนี้ได้เรียกผู้คุมที่เข้าเวรระวังควบคุมนักโทษในขณะนั้นมาสอบปากคำ
“เราได้รวบรวมข้อมูลพบว่านายบุญเริงได้มีญาติมาเยี่ยมได้อย่างอิสระ วันหนึ่งๆ มีผู้มาเยี่ยมนายบุญเริงหลายราย อาจเป็นช่วงไหนก็ได้ที่ญาติหรือพรรคพวกนำเอาใบเลื่อยมาให้ จนนายบุญเริงอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอตัดตรวนแล้วหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดจับภาพได้เล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมุมกล้องก้มลงต่ำมากเกินไป หลังจากนั้นเข้าใจว่าหลบออกไปทางหลังของโรงพยาบาล โดยนัดหมายกับสมัครพรรคพวกมารอรับหลบหนีอยู่แล้ว”
พ.ต.อ.ธรรมนูญกล่าวต่อว่า ได้ตรวจสอบประวัตินักโทษรายนี้พบว่ามีประวัติที่ร้ายกาจ อาจเคยต้องโทษคดีอาวุธสงคราม พยายามหลบหนีการควบคุมของเรือนจำเมื่อปี 2534 และต้องโทษคดีปล้นทรัพย์ พยายามหลบหนีจากเรือนจำเดียวกันเมื่อปี 2537 เจ้าหน้าที่ได้ตามจับกุมมาจองจำได้ทั้ง 2 ครั้ง ก่อนที่จะมาถูกจับกุมอีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ในคดีอาวุธสงครามจำนวนมาก ผกก.สภ.ทุ่งสงกล่าวในที่สุด
ส่วนทางด้านเรือนจำทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการจัดชุดปฏิบัติการเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการไล่ล่านักโทษรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว ขณะเดียวกันได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยตามขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ต่อไปแล้ว
