ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการ ประจำปี 2555 พร้อมปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2556” ที่ จ.สงขลา
วันนี้ (3 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาด ใหญ่ จ.สงขลา ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการ ประจำปี 2555 พร้อมปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2556” โดยมี นายพฤฒิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เป็นผู้กล่าวรายงาน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 500 คน
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง การประเมินทิศทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปอย่างรอบคอบ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ทั้งภาครัฐ และเอกชนสามารถวางแนวทางรับมือกับคลื่นลมเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม เวทีสัมมนาวิชาการประจำปี 2555 ของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ ในวันนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้นำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ และปีหน้าในมุมมองของแบงก์ชาติ และแนวทางการดำเนินนโยบายของแบงก์ชาติในปีหน้า เพื่อประโยชน์ในการวางแผนนโยบาย และธุรกิจต่อไป
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงภาวะ และแนวโน้มเศรษฐกิจว่า เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มหาอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบหยุดชะงักไปทั้งหมด ทั้งการผลิต การขนส่ง การจับจ่ายใช้สอย รวมถึงกระทบห่วงโซ่การผลิตไปทั่วโลก แต่ด้วยความร่วมมือของหลายฝ่าย เศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวจากอุทกภัยอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง ทั้งด้านอุตสาหกรรมที่หลายโรงงานกลับมาผลิตได้เต็มกำลังแล้วตั้งแต่ช่วงกลางปี เช่น กลุ่มที่ผลิตยานยนต์ ส่วนภาคธุรกิจ และประชาชนก็ไม่ได้สูญเสียความเชื่อมั่น และยังมีความต้องการจับจ่ายใช้สอย และลงทุนฟื้นฟูหลังอุทกภัย ไม่เว้นแม้แต่การท่องเที่ยวที่ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปีขยายตัวได้ร้อยละ 2.2 ซึ่งมากกว่าที่แบงก์ชาติประเมินไว้
สำหรับปีหน้า แบงก์ชาติมองว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 0.5-3.0 แต่แรงส่งทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะชะลอลง ทำให้ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นประเด็นหลัก จึงต้องจับตาว่า จุดแข็งด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยที่อยู่ในเกณฑ์ดีในช่วงที่ผ่านมา และแรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจในประเทศจะช่วยเป็นเกราะป้องกัน หรือบรรเทาผลกระทบของเศรษฐกิจโลกได้มากน้อยเพียงใด ในส่วนของการดำเนินนโยบายในช่วงที่ผ่านมา และอนาคต แบงก์ชาติได้มีการเสริมจุดแข็งโดยมุ่งเน้นเตรียมความพร้อมให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ และมีความแข็งแกร่งพร้อมรับมือความท้าทายในด้านต่างๆ เช่น นโยบายการเงินสามารถผ่อนปรนได้ในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ การเตรียมออกแผนแม่บท
เงินทุนเคลื่อนย้าย เพื่อให้เงินทุนสามารถไหลเข้าออกได้สมดุลมากขึ้น การนำนโยบายต่างๆ มาเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจ และให้เกิดมุมมองเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐภาคธุรกิจ และประชาชนสามารถวางแผน และดำเนินการอย่างมั่นคง นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายของรัฐบาล และภาคเอกชนเองก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐควรต้องมุ่งเน้นการใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ซึ่งไม่เพียงจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในปีหน้า แต่จะช่วยยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจในระยะยาวให้ก้าวข้ามการเป็นประเทศกำลังพัฒนาไปสู่กลุ่มประเทศพัฒนาด้วย ในขณะที่ภาคเอกชนซึ่งจะต้องเผชิญการแข่งขันที่มากขึ้นภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า ควรถือโอกาสปรับปรุงพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันที่จะมีมากขึ้นเมื่อไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
กิจกรรมในวันนี้ จัดให้มีการเสวนาเรื่อง “แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2556 รุ่งหรือร่วง” โดย ดร.ปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานหอการค้าไทย และ ดร.วิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินการเสวนาโดย ดร.อมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายวางแผนและงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย