ตรัง - มุสลิมตรังสุดทนรวมตัวประท้วงตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ชุ่ยไม่ยอมค้นหาคนร้าย 2 คนที่เข้าไปลักตัดสายไฟ และทุบทำลายทรัพย์สินในมัสยิดกลาง จนเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (28 ก.ย.) นายสุอีน สูบเด็น รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วยคณะกรรมการ และชาวมุสลิมในพื้นที่ ต.ทุ่งกระบือ กว่า 200 คน ได้มารวมตัวกันที่มัสยิดกลางประจำ จ.ตรัง ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังจากทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ได้นำตัวนายธีระภัทร รักเพชร อายุ 19 ปี ช่างเชื่อมเหล็กโครงหลังคา อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 10 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคนร้ายที่ชาวบ้านช่วยกันล้อมจับไว้ได้ขณะเข้าไปลักขโมยตัดสายไฟ และทำลายทรัพย์สินภายในมัสยิดกลางจนได้รับความเสียหายเมื่อวานที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยชาวบ้านที่ไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ตั้งแต่ที่ไม่ยอมช่วยค้นหาคนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนีไปได้ ทั้งที่ได้ชี้เบาะแสให้แล้ว พร้อมกันนั้น ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และเร่งรัดจับคนร้ายที่เหลือให้ได้
นายสุอีน สูบเด็น รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนายมุสตอฟา หนูหนุด กรรมการมัสยิดบ้านนานิน ทราบข่าวจากชาวบ้านว่า ได้มีคนร้ายเข้ามาลักขโมยสิ่งของภายในมัสยิดกลาง จึงได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเมื่อมาถึงก็พบคนร้าย จำนวน 2 คน กำลังช่วยกันรื้อฝ้าเพดานในห้องโถงมัสยิดกลางเพื่อตัดสายไฟ ทันทีที่คนร้ายเห็นนายมุสตอฟาจึงได้วิ่งหนี และนายมุสตอฟาก็ได้วิ่งไล่ติดตามคนร้าย แต่ก็หาไม่เจอ จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบ จากนั้นได้แจ้งให้ชาวบ้านช่วยกันล้อมจับ ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้ทำการบันทึกภาพเก็บร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น และเดินค้นหาไม่นานก็เตรียมตัวจะกลับ แต่ชาวบ้านประมาณ 10 กว่าคน ได้ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันค้นหาคนร้าย 2 คนอีกรอบ เพราะมั่นใจว่ายังคงหลบหนีไปได้ไม่ไกล และน่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในมัสยิด แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ยอมช่วยค้นหา และยังได้ย้อนถามชาวบ้านว่า ทำไมไม่ช่วยกันจับคนร้าย ทำให้ชาวบ้านถึงกับแปลกใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่ช่วยกันค้นหาคนร้าย และรีบเดินทางกลับ ทั้งที่ชาวบ้านได้ช่วยกันปิดล้อมไว้ให้แล้ว
ปรากฏว่า หลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางกลับ คนร้ายซึ่งทราบภายหลังคือ นายธีระภัทร ซึ่งทำหน้าที่ขึ้นไปบนเพดานเพื่อดึงสายไฟข้างบนลงมาข้างล่าง ได้ยื่นมือโผล่ออกมาทางฝ้าเพดานชั้น 2 พร้อมกับบอกขอยอมแพ้ ทางชาวบ้านจึงได้ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่กลับมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสุอีน กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบหลังเกิดเหตุ พบว่า คนร้ายมีจำนวน 3 คน ได้เข้ามาในมัสยิดกลาง จากนั้นได้ตัดสายไฟที่ตู้จ่ายไฟทั้งระบบ ก่อนจะรื้อฝ้าเพดานเพื่อตัดสายไฟพร้อมกับทุบทำลายประตูกระจก จนทรัพย์สินได้รับความเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายจิตใจพี่น้องมุสลิมในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะมัสยิดกลางเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าทางจิตใจที่ทาง อบจ.ตรัง จัดสรรงบฯ สร้างให้เป็นศาสนสมบัติเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชาวมุสลิมได้ช่วยกันดูแลไม่ให้ทรัพย์สินสูญหาย แต่กลับถูกคนร้ายที่เป็นคนต่างจังหวัด ที่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกหวงแหน และเสียดายของชาวบ้านเข้ามาลักขโมย และทำลายทรัพย์สินจนได้รับความเสียหาย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่น้องมุสลิม จ.ตรัง จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีนี้อย่างโปร่งใส พร้อมกับสร้าความมั่นใจให้แก่ชาวบ้าน และเร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมคนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนีไปได้โดยเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม หากคดียังไม่คืบหน้า ทางคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง จะมีการยื่นข้อเรียกร้องสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง พร้อมกับเตรียมเข้าหารือ นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง เพื่อหามาตรการรักษาความปลอดภัยต่อจากนี้
ขณะที่ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กลอนสม ร้อยเวรฯ สภ.ย่านตาขาว เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นช่างเชื่อมเหล็กโครงหลังคา และมาทำงานรับจ้างก่อสร้างอาคารให้แก่โรงเรียนกีฬา จ.ตรัง ซึ่งอยู่ตรงข้ามมัสยิดกลาง โดยได้ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน เข้าไปใช้มีดคัตเตอร์ตัดสายไฟ และทุบทำลายทรัพย์สินภายในมัสยิดกลางถึง 2 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 ก.ย.เวลา 23.00 น. ได้สายไฟ จำวน 20 กก. ให้เพื่อน 2 คนนำไปขาย ได้เงินจำนวน 4,000 บาท และได้ส่วนแบ่ง 1,000 บาท
และล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 15.30 น. นายธีระภัทร ได้ขึ้นไปแอบอยู่บนฝ้าเพดาน แต่ยังไม่ทันตัดสายไฟก็ถูกจับได้เสียก่อน ส่วนของกลางที่ตรวจยึดมาได้ มีรองเท้าแตะ และใบมีดคัตเตอร์ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนที่หลบหนี ขณะนี้ทางตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว