ยะลา - นักศึกษามุสลิมชายแดนใต้เชื่อหากสหรัฐฯ ออกมาขอโทษกรณีภาพยนตร์หมิ่นศาสนาอิสลาม “อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิม” เหตุการณ์วุ่นวายทั่วโลกจะลดลง ระบุ ทุกศาสนาควรเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง “อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิม” ทางยูทิวบ์ ซึ่งเนื้อหาของภาพยนตร์ดังกล่าวส่อเจตนาดูหมิ่นศาสดาศาสนาอิสลาม ทำให้ประชาชนชาวมุสลิมทั่วโลกออกมาประณามการเผยแพร่ รวมทั้งในหลายประเทศเกิดเหตุจลาจลจากกรณีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของ จ.ยะลา เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (20 ก.ย.) นายคาวิน สมทัด ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวตนเองมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะนำเสนอภาพยนตร์ในลักษณะนี้ออกมา เพราะว่าทุกศาสนาก็มีเสรีภาพเท่าๆ กัน ไม่ว่าศาสนาอะไรก็ตามในโลก ควรเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
และในช่วงนี้ กลุ่มนักศึกษามุสลิมในพื้นที่ก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะออกมาเคลื่อนไหวกับกรณีนี้หรือไม่ มีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว ช่วงนี้จึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะหากจะมีการเคลื่อนไหวนั้นก็จะมีการประกาศกันภายในมหาวิทยาลัย และจะมีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นกัน แต่ส่วนตัวแล้วตนคิดว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะศาสนาอะไรก็ตาม ถ้ามีการลบหลู่เช่นนี้ศาสนิกชนก็คงจะไม่พอใจเหมือนกัน
นายคาวิน สมทัด กล่าวอีกว่า ตนเองอยากจะเสนอแนะว่าภาพยนตร์ดูหมิ่นในลักษณะดังกล่าวนี้ไม่ควรผลิตขึ้นมาอีกในอนาคต ขณะนี้กรณีดังกล่าวในต่างประเทศก็มีการลุกฮือต่อต้านกันหลายประเทศ ถ้าสหรัฐอเมริกาไม่ออกมาขอโทษก็เชื่อว่าเหตุการณ์จะรุนแรงแบบนี้ต่อไป จะมีการตอบโต้กัน มันก็ไม่จบ และตนเชื่อว่าวิธีการที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ อเมริกาจะต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษต่อมุสลิมทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดี เพราะตอนนี้เหตุการณ์วุ่นวายไปทั่วโลกแล้ว
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง “อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิม” ทางยูทิวบ์ ซึ่งเนื้อหาของภาพยนตร์ดังกล่าวส่อเจตนาดูหมิ่นศาสดาศาสนาอิสลาม ทำให้ประชาชนชาวมุสลิมทั่วโลกออกมาประณามการเผยแพร่ รวมทั้งในหลายประเทศเกิดเหตุจลาจลจากกรณีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของ จ.ยะลา เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (20 ก.ย.) นายคาวิน สมทัด ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวตนเองมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะนำเสนอภาพยนตร์ในลักษณะนี้ออกมา เพราะว่าทุกศาสนาก็มีเสรีภาพเท่าๆ กัน ไม่ว่าศาสนาอะไรก็ตามในโลก ควรเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
และในช่วงนี้ กลุ่มนักศึกษามุสลิมในพื้นที่ก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะออกมาเคลื่อนไหวกับกรณีนี้หรือไม่ มีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว ช่วงนี้จึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะหากจะมีการเคลื่อนไหวนั้นก็จะมีการประกาศกันภายในมหาวิทยาลัย และจะมีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นกัน แต่ส่วนตัวแล้วตนคิดว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะศาสนาอะไรก็ตาม ถ้ามีการลบหลู่เช่นนี้ศาสนิกชนก็คงจะไม่พอใจเหมือนกัน
นายคาวิน สมทัด กล่าวอีกว่า ตนเองอยากจะเสนอแนะว่าภาพยนตร์ดูหมิ่นในลักษณะดังกล่าวนี้ไม่ควรผลิตขึ้นมาอีกในอนาคต ขณะนี้กรณีดังกล่าวในต่างประเทศก็มีการลุกฮือต่อต้านกันหลายประเทศ ถ้าสหรัฐอเมริกาไม่ออกมาขอโทษก็เชื่อว่าเหตุการณ์จะรุนแรงแบบนี้ต่อไป จะมีการตอบโต้กัน มันก็ไม่จบ และตนเชื่อว่าวิธีการที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ อเมริกาจะต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษต่อมุสลิมทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดี เพราะตอนนี้เหตุการณ์วุ่นวายไปทั่วโลกแล้ว