“ยงยุทธ” ประชุม กพต. แก้ระเบียบ ขรก.ประพฤติไม่ดีต้องออกพ้นพื้นที่ภาคใต้ 3 ปี พร้อมหาแนวทางเยียวยาที่ดิน หลัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงประชาชนที่ถูกกว้านซื้อที่ดินแล้วต้องไปอยู่ที่อื่น ไม่พบความเคลื่อนไหวต้านภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสนาอิสลาม
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ (กพต.) ว่า เป็นการประชุมเกี่ยวกับปัญหาข้าราชการที่ไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วประพฤติตัวหรือปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ถูกต้องโดยได้มีการปรับหลักเกณฑ์ คือ ในส่วนนี้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีสิทธิตั้งคณะกรรมการสอบและให้ออกจากพื้นที่ไปก่อน จะกลับมายังพื้นที่ได้ต้อง 3 ปีขึ้นไป แต่เดิมแค่ 1 ปีเดียวในส่วนของข้าราชการ ยกเว้นทหาร ศาล อัยการ ซึ่งข้าราชการทั้งหมด พลเรือน ตำรวจ ต้องอยู่เงื่อนไขนี้ ทำอะไรไม่ดีต้องออกจากพื้นที่แล้ว 3 ปีค่อยกลับเข้ามาใหม่ได้
นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องของการเยียวยาที่ดิน ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์แสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ถูกกว้านซื้อที่ดินแล้วต้องไปอยู่ที่อื่น โดยจะเข้าไปเยียวยาหลายลักษณะซึ่งจะมีการประชุมเพื่อกำหนดรายละเอียดอีกรอบหนึ่งในวันที่ 18 ก.ย.นี้ กับหลายๆ ฝ่าย และยังไม่จำเป็นต้องการมีการแก้ไขกฎหมายอะไรเพิ่มเติมในพื้นที่ กฎหมายเดิมยังใช้ได้อยู่
ส่วนการหารือร่วมกับฝ่ายค้านในวันที่ 18 ก.ย.ไม่ได้มีความกังวลอะไร จะได้มานั่งคุยกันในลักษณะที่สร้างสรรค์ เพราะเป็นคนที่รักบ้านรักเมืองกันทั้งนั้นก็น่าจะมีทางออกที่ดี
ส่วนสถานการณ์สืบเนื่องจากความไม่พอใจหนังดูหมิ่นศาสนาและศาสดาอิสลาม “อินโนเซนซ์ออฟมุสลิม” มากกว่า 20 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนเกิดการประท้วงเผาสถานทูตสหรัฐฯ นั้น นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไทยโดยตรง ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี การข่าวยังไม่พบกับการเคลื่อนไหว เมื่อถามว่าหวั่นหรือไม่ว่าจะมีการอาศัยสถานการณ์ตรงนี้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่อยากให้สื่อไปกังวลตรงนั้น แต่ก็ไม่ได้ประมาทดูแลอย่างละเอียด