เอเอฟพี - ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนจากเหตุวุ่นวายในตะวันออกกลางและตามหลังเฟดประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ QE3 ขณะที่ปัจจัยหลังนี้ยังก่อความคึกคักแก่วอลล์สตรีทและตลาดทองคำต่อเนื่อง จนทำให้วานนี้(14) ปิดบวกพอประมาณ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 99.00 ดอลลาร์บาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งทะยานผ่าน 100 ดอลลาร์ไปแล้ว ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ ปิดที่ 116.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม
การประท้วงต่อต้านสหรัฐฯที่ลุกลามทั่วตะวันออกกลางต่อภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสนาอิสลาม ก็ก่อความกังวลว่าการลำเลียงน้ำมันดิบจากภูมิภาคผู้ส่งออกเชื้อเพลิงอาจได้รับผลกระทบ
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันยังคงอยู่ในความคึกคักจากคำแถลงของเฟด(ธนาคารกลางสหรัฐฯ) เมื่อวันพฤหัสบดี(13) เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงและเพิ่มความคาดหมายต่ออุปสงค์ทางพลังงานอันแข็งแกร่ง
ปัจจัยเกี่ยวกับมาตรการQE3นี้ ก่อแรงอานิสงส์แก่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยวานนี้(14) ปิดบวกเล็กน้อยตามตลาดหุ้นอื่นๆทั่วยุโรปและเอเชีย ท่ามกลางความคาดหมายว่าแผนนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของอเมริกาฟื้นคืนชีพ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 53.51 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,593.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.12 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,183.95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.78 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,465.77 จุด
ตลาดหุ้นทั่วโลก ดีดตัวขึ้นอย่างถ้วนหน้า หลังเฟดแถลงมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร QE3 และให้คำมั่นเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจไปจนกว่าเศรษฐกิจกับตลาดงานจะส่งสัญญาณเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ด้วยข่าวดีดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำยังเดินหน้าในแดนบวก โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น ถึง 0.60 ดอลลาร์ (ร้อยละ 0.03) ปิดที่ 1,772.70 ต่อออนซ์