xs
xsm
sm
md
lg

“ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว” เริ่มขึ้นแล้ว พร้อมดันสู่ตลาดโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เริ่มแล้วงาน “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว ปี 55” ประเดิมเวทีประชุมสัมมนา และนิทรรศการระดับนานาชาติ รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ระบุ รัฐบาลพร้อมผลักดันอาหารฮาลาลของไทยไปสู่ครัวโลก เผยปี 54 การส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทยไปยังกลุ่มประเทศมุสลิม 57 ประเทศ มีมูลค่ากว่า 6,800 ล้านบาท
เปิดประชุมสัมมนาและนิทรรศการระดับนานาชาติงาน ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ที่โรงแรมเดอะรอยัล พาราไดส์ แอนด์ สปา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันจัดงาน “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว ปี 2555” และการประชุมสัมมนา และนิทรรศการระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 5-8 ก.ย.2555 ขึ้น โดยวันนี้ (5 ก.ย.) เป็นการประชุมสัมมนา และนิทรรศการระดับนานาชาติ มีนายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธี และแสดงปฐกถาพิเศษ “บทบาทภาครัฐต่อการสนับสนุนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก และอาหารฮาลาล” โดยมีผู้ประกอบการ นักวิชาการทั้งคนไทย และชาวต่างชาติเข้าร่วม นอกจากนั้น ยังมี ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “อาเซียนกับศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อชาวมุสลิม”
ผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศต่างๆ
นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว ปี 2555” ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดในเขตอันดามัน โดยการนำเอาวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชาวมุสลิมมาเป็นสื่อในการนำเสนอเรื่องราวแห่งชีวิตของศาสนาอิสลามให้แก่เยาวชนรุ่นหลัง อันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป โดยการจัดงานแบ่งออกเป็น 2 ช่วงกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดเวทีประชุมสัมมนาและนิทรรศการระดับนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมเดอะรอยัล พาราไดส์ แอนด์ สปา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยมีองค์กรรับรองฮาลาล จากประเทศต่างๆ 20 ประเทศทั่วโลก สถานเอกอัครราชทูตประเทศมุสลิมในประเทศไทย สมาคมการท่องเที่ยว สภาหอการค้า องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมุสลิมทั่วโลก ประมาณ 300 คน เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 ก.ย.2555

และอีกกิจกรรม เป็นการจัดงานแสดงสินค้าฮาลาล จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-8 กันยายน 2555 ณ บริเวณสนามชัย หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีการแสดงนิทรรศการวิถีชีวิตมุสลิมของภาคต่างๆ และวิถีชีวิตมุสลิมภูเก็ต การออกร้านอาหารฮาลาล อร่อย 4 ภาค จากภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ สินค้าโอทอปภาคต่างๆ ระดับ 5 ดาว สินค้าโอทอปของจังหวัดภูเก็ต ร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมุสลิม ร้านหนังสือชั้นนำ ร้านค้าจากผู้ประกอบการมุสลิมภาคใต้เข้าร่วม ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดงานในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน และนักท่องเที่ยว

ขณะที่ นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในพิธีเปิดการสัมมนาว่า อุตสาหกรรมอาหาร และธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตอาหารแบบครบวงจรทั้งในภาคเกษตรกรรม ปศุสัตว์ การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนธุรกิจบริการร้านอาหาร ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จึงมีนโยบายในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตรโดยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก จนเป็นที่มาของโครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ที่มีเป้าหมายผลักดันให้สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร และภัตตาคารอาหารไทยเป็นที่รู้จัก และยอมรับเพิ่มขึ้นในตลาดโลก
นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิต และผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 15 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย โดยเฉพาะแหล่งวัตถุดิบอาหารฮาลาล ไม่ว่าจะเป็น ข้าว กุ้ง ไก่ หรืออาหารทะเล นับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ตลาดฮาลาลเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพที่ไม่ควรมองข้าม และประเทศไทยเองสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำการส่งออกสินค้าฮาลาลในตลาดโลกได้ในอนาคต ซึ่งขณะนี้ มีประชากรชาวมุสลิมทั่วโลกประมาณ 1.9 พันล้านตน และคาดว่าในปี 2030 จำนวนชาวมุสลิมทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 พันล้านคน และจากจำนวนชาวมุสลิมที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ตลาดสินค้าฮาลาลกลายเป็นตลาดที่น่าจับตามอง อาหารฮาลาลเป็นอุตสาหกรรมอาหารที่มีศักยภาพ และมีความสำคัญโดยผู้ส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลรายใหญ่ของโลกขณะนี้ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล อาร์เจนตินา แคนาดา อินเดีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เยี่ยมชมการแสดงนิทรรศการ
สำหรับตลาดส่งออกอาหารฮาลาลของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นไปมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทยไปยังกลุ่มประเทศมุสลิม 57 ประเทศ ในปี 2554 มีมูลค่า 6,829.91 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 43.53% และช่วง 7 เดือนแรกของปี 2555ไทยส่งอาหารไปยังกลุ่มประเทศมุสลิมมูลค่า 3,893.20 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปี 2554 พบว่าลดลง 12.14% แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยจะมีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทางภาครัฐก็ยังจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์จากทุกภาคส่วน ไม่เพียงแต่ภาครัฐ กระทรวง ทบวง กรม สถาบันการศึกษาต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชนก็ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศผู้ผลิต และส่งออกอาหารฮาลาลของโลกต่อไป

ขณะที่ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้การสัมนาวิชาการ “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว ปี 2555” ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฮาลาลควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฮาลาลทั่วโลกนั้นสามารถตอบสนองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างดี ซึ่งตนมีโอกาสได้เดินทางไปยังลอนดอน พบว่า โรงแรมขนาด 5 ดาว ในห้องนอนจะมีผ้าปูเพื่อให้แขกที่เป็นชาวมุสลิมได้ทำการละหมาด ตลอดจนมีร้านอาหารที่เป็นฮาลาล แม้กระทั่งโรงแรมในกรุงพนมเปญก็ยังมีป้ายประชาสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาพักทราบว่า ทางโรงแรมนั้นมีร้านอาหารฮาลาล และห้องละหมาดให้แก่พี่น้องชาวมุสลิม จะเห็นได้ว่า โรงแรมใหญ่ๆ ทั่วโลกนั้นได้ให้ความสำคัญกับฮาลาลเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นการเพิ่มนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมอีกทางหนึ่ง

“ประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา พี่น้องชาวมุสลิมนั้นเมื่อเดินเข้ามาในโรงแรมยังมีความรู้สึกอึดอัดอยู่มาก แต่ในปัจจุบันนี้เห็นได้ว่า สิ่งต่างๆ ความเป็นฮาลาลได้มีการพัฒนาเพื่อที่จะตอบสนองลูกค้าที่เป็นกลุ่มมุสลิมมากขึ้น ทำให้พี่น้องชาวมุสลิมที่เข้ามาใช้บริการในโรงแรมรู้สึกสะดวกสบายขึ้น ดังนั้น เราควรที่จะมาร่วมมือ และหาแนวทางว่า สินค้า นักท่องเที่ยว และการลงทุนนั้น จะเดินหน้าควบคู่กันไปได้อย่างไรกับอาเซียนที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ววันกับคนทั่วโลกที่เป็นมุสลิม

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเฉพาะจังหวัดภูเก็ต หรือประเทศใดประเทศหนึ่งจะเป็นผู้เริ่ม ซึ่งวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ถูกต้องแล้วที่ได้มีนักวิชาการเกือบ 20 ประเทศทั่วโลก เข้ามาร่วมสัมมนาเอาจริงเอาจังกับเรื่องฮาลาล ซึ่งฮาลาลนั้นถือว่าเป็นของประชาชาติมุสลิม การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฮาลาลนี่ก็สำคัญ และยิ่งกว่านั้น เราจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจฮาลาลให้ได้ เราต้องเปิดตัวเข้าสู่ตลาดที่กว้างกว่าเดิม และจะต้องทำให้ประจักษ์เป็น Green Halal Food ซึ่งจะก่อให้เกิดความยั่นยืนต่อไป” ดร.สุรินทร์กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น