พัทลุง - สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพัทลุงยังคงน่าเป็นห่วง ชาวนาหันมาหว่านข้าวนาแห้ง เพื่อรอรับน้ำฝนที่จะตกลงมา ขณะที่จังหวัดได้ประกาศให้ 3 อำเภอยังเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพัทลุงยังคงน่าเป็นห่วง ฝนยังคงทิ้งช่วงติดต่อกันมาหลายเดือน ขณะนี้พื้นที่ความแห้งแล้งได้ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลให้พื้นที่นาข้าวในพื้นที่ อ.ควนขนุน อ.เมือง จ.พัทลุง จำนวน 155 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นาข้าวหลายพื้นที่กำลังยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ ถึงแม้ว่าทางองค์กรท้องถิ่น อำเภอ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ได้ร่วมกันแก้ปัญหาในขั้นต้น โดยการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวในแปลงนา แต่ก็ทำได้ในพื้นที่ที่จำกัด เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้ำไม่เพียงพอ จนส่งผลให้ต้นข้าวในพื้นที่ อ.เมือง อ.ควนขนุน ต้องยืนต้นตายไม่ต่ำกว่า 30,000 ไร่
ขณะที่เกษตรกรที่ทำนาปีก็ต้องปรับตัวเองหันมาหว่านข้าวนาแห้ง เพื่อรอรับน้ำฝนที่จะตกลงมา โดยชาวนาระบุว่า ในปีนี้การทำนาปีจะช้าออกไป 1 เดือน แต่จำเป็นที่ต้องหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวลงยังแปลงนา ไม่อย่างนั้นนาข้าวจะออกช้า และไม่ตรงกับฤดูกาล ทำให้มีผลกระทบต่อผลผลิตปลายปี แม้การทำนาหว่านแห้งจะมีความเสี่ยงสูงแต่ก็จำเป็นต้องทำ
ทางด้านนายประภาส ขาวดำ รักษาการหัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ในขณะนี้ จังหวัดพัทลุงได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 3 อำเภอ คือ อ.เมืองพัทลุง อ.ควนขนุน และ อ.ศรีบรรพต สำหรับความเสียหายของพื้นที่ อ.เมือง อ.ควนขนุน นั้นส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่นาข้าว ส่วนพื้นที่ อ.ศรีบรรพต จะเป็นพื้นที่สวนผลไม้ และพื้นที่สวนยางพารา โดยเฉพาะสวนผลไม้นั้น เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.เขาปู่ ต.เขาย่า และ ต.ตะแพน จนส่งผลให้ต้นไม้ผล เช่น ทุเรียน ลองกอง มังคุด เงาะ ขาดน้ำ
