พัทลุง - หลายตำบลใน จ.พัทลุง เดือดร้อนหนัก ประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงนาน 2 เดือน ต้นข้าวยืนต้นตายเกือบหมื่นไร่ ปภ.พัทลุงเร่งนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำจากลำคลองลงสู่แปลงนา เบื้องต้น ช่วยได้แค่ 4,000 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากที่เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ 2 อำเภอ 5 ตำบล คือ ตำบลชัยบุรี ตำบลลำปำ และตำบลพญาขัน อำเภอเมืองพัทลุง ตำบลมะกอกเหนือ และตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน ประสบปัญหาภัยแล้ง ต้นข้าวที่เพาะปลูกในฤดูกาลนี้ กำลังยืนต้นตาย เนื่องจากฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ดังกล่าวมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว ส่งผลให้ต้นข้าวกำลังยืนตายเกือบ 10,000 ไร่ แหล่งน้ำบริเวณลำเหมืองแห้งขอด ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน พร้อมรวมตัวกันเรียกร้องให้หน่วยงานทางราชการที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน
ซึ่งในวันนี้ (10 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 4 เครื่อง ลงติดตั้งเครื่องสูบน้ำร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบจำนวน 4 จุด บริเวณลำคลองคลองตรุด ซึ่งเป็นลำคลองขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำที่เพียงพอจะสูบน้ำจากลำคลองลงสู่ลำเหมือง ที่ผ่านแปลงนาของเกษตรกรกว่า 4,000 ไร่ หลังติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็ดำเนินการเดินเครื่องสูบน้ำทันที และเมื่อน้ำถึงลำเหมืองผ่านแปลงนา เกษตรกรก็ต่างเร่งรีบชักน้ำเข้าสู่แปลงนาทันทีเช่นกัน เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้กลับคืบสู่สภาพที่สมบูรณ์
ด้าน นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ในขณะนี้ พื้นที่ของจังหวัดพัทลุงกำลังประสบปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ทำให้เกิดภัยแล้ง มีผลกระทบโดยเฉพาะกับเกษตรกรชาวนาในอำเภอเมือง และอำเภอควนขนุน ต้นข้าวเหี่ยวแห้งขาดน้ำ ขณะนี้ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักชลประทานจังหวัด สำนักงานเกษตรกรจังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกร เบื้องต้น ให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งสูบน้ำจากลำคลองส่งให้เกษตรกรชาวนา และให้เพิ่มเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ส่วนการประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งนั้น ขณะนี้ กำลังให้เจ้าหน้าที่แต่ละอำเภอเข้าสำรวจข้อมูลที่แท้จริง ก่อนที่จะประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง
