พัทลุง - ชาวนา จ.พัทลุง ได้รับความเดือดร้อนหนัก หลังฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้ผืนนากว่า 18,000 ไร่ กำลังขาดน้ำ ขณะที่ผู้สูงอายุ และเด็กได้รับผลกระทบจากควันไฟที่ไหม้ป่าพรุ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังคงน่าเป็นห่วง หลังฝนทิ้งช่วงมานานเกือบ 2 เดือน ทำให้ขณะนี้ มีพื้นที่ประสบปัญหาครอบคลุม 62 ตำบล 350 หมู่บ้าน ครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด แม้ว่าในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จะไม่รุนแรงนัก แต่ในปีนี้กลับทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก ในการทำนาข้าว รวมทั้งชาวสวนยาง สวนผลไม้ พืชผักต่างได้รับผลกระทบ และปริมาณน้ำยางพาราลดลงเกินกว่าครึ่ง ไม้ผลก็กำลังยืนต้นแห้งตาย
ในขณะที่ข้าวนาปรังของเกษตรกรในพื้นที่ ต.พญาขันต์ ต.ลำปำ ต.ชัยบุรี อ.เมือง ต.มะกอกเหนือ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เนื้อที่กว่า 18,000 ไร่ กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก นาข้าวที่กำลังแตกกอ กำลังยืนต้นแห้งตายเพราะขาดน้ำ แม้ว่าเกษตรกรจะพยายามผันน้ำเข้านา แต่กำลังการสูบน้ำก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากขาดเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่จะวิดน้ำจากลำคลองสายหลักเข้าสู่เหมืองน้ำเล็กเข้าแปลงนา ที่ทางจังหวัดส่งมาให้ความช่วยเหลือมีเพียง 3 เครื่องเท่านั้น และจนถึงขณะนี้ ชาวนาใน ต.พญาขันต์ อ.เมือง บางรายเริ่มทำใจยอมปล่อยให้นาข้าวแห้งตาย เพราะทนสู้กับปัญหาภัยแล้งไม่ไหว
และผู้สื่อข่าวยังรายงานถึงสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุงว่า ยังคงลุกลาม และยังไม่สามารถควบคุมไฟที่ลุกลามได้ และควันไฟยังคงฟุ้งกระจายไปรอบๆ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบใน ต.ทะเลน้อย ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ต่างได้รับผลกระทบจากการสูดควันไฟเข้าไป โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ
ทางด้าน นายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย กล่าวว่า จุดที่เกิดไฟไหม้ เป็นป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน ไม่ใช่พื้นที่ชุ่มน้ำ หรือแรมซาร์ไซด์ ตามที่เป็นข่าว ส่วนการดับไฟนั้น เขตห้ามล่าฯ ร่วมกับหน่วยไฟป่า และเจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์พัทลุง ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 40 คน เดินป่าเข้าไปขุดร่องกันไฟ ซึ่งก็สามารถควบคุมให้ไฟไหม้อยู่ในวงจำกัด และไฟที่เกิดลุกไหม้ขึ้นมาต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน จำนวน 3 จุด ล่าสุด มีการจุดไฟไหม้เพิ่มขึ้นมาอีก 1 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะปัญหาการลักลอบเผ่าป่าพรุ ยังมีการแอบเผากันอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นฝีมือของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านระบุว่า เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ที่หวังผลในการทำงบประมาณฟื้นฟูป่าพรุ และวางแผนที่จะรับลูกจ้างป่าไม้ที่เป็นญาติของตัวเองเพิ่มขึ้น จึงสร้างสถานการณ์ไฟป่าขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังคงน่าเป็นห่วง หลังฝนทิ้งช่วงมานานเกือบ 2 เดือน ทำให้ขณะนี้ มีพื้นที่ประสบปัญหาครอบคลุม 62 ตำบล 350 หมู่บ้าน ครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด แม้ว่าในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จะไม่รุนแรงนัก แต่ในปีนี้กลับทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก ในการทำนาข้าว รวมทั้งชาวสวนยาง สวนผลไม้ พืชผักต่างได้รับผลกระทบ และปริมาณน้ำยางพาราลดลงเกินกว่าครึ่ง ไม้ผลก็กำลังยืนต้นแห้งตาย
ในขณะที่ข้าวนาปรังของเกษตรกรในพื้นที่ ต.พญาขันต์ ต.ลำปำ ต.ชัยบุรี อ.เมือง ต.มะกอกเหนือ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เนื้อที่กว่า 18,000 ไร่ กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก นาข้าวที่กำลังแตกกอ กำลังยืนต้นแห้งตายเพราะขาดน้ำ แม้ว่าเกษตรกรจะพยายามผันน้ำเข้านา แต่กำลังการสูบน้ำก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากขาดเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่จะวิดน้ำจากลำคลองสายหลักเข้าสู่เหมืองน้ำเล็กเข้าแปลงนา ที่ทางจังหวัดส่งมาให้ความช่วยเหลือมีเพียง 3 เครื่องเท่านั้น และจนถึงขณะนี้ ชาวนาใน ต.พญาขันต์ อ.เมือง บางรายเริ่มทำใจยอมปล่อยให้นาข้าวแห้งตาย เพราะทนสู้กับปัญหาภัยแล้งไม่ไหว
และผู้สื่อข่าวยังรายงานถึงสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุงว่า ยังคงลุกลาม และยังไม่สามารถควบคุมไฟที่ลุกลามได้ และควันไฟยังคงฟุ้งกระจายไปรอบๆ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบใน ต.ทะเลน้อย ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ต่างได้รับผลกระทบจากการสูดควันไฟเข้าไป โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ
ทางด้าน นายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย กล่าวว่า จุดที่เกิดไฟไหม้ เป็นป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน ไม่ใช่พื้นที่ชุ่มน้ำ หรือแรมซาร์ไซด์ ตามที่เป็นข่าว ส่วนการดับไฟนั้น เขตห้ามล่าฯ ร่วมกับหน่วยไฟป่า และเจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์พัทลุง ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 40 คน เดินป่าเข้าไปขุดร่องกันไฟ ซึ่งก็สามารถควบคุมให้ไฟไหม้อยู่ในวงจำกัด และไฟที่เกิดลุกไหม้ขึ้นมาต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน จำนวน 3 จุด ล่าสุด มีการจุดไฟไหม้เพิ่มขึ้นมาอีก 1 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะปัญหาการลักลอบเผ่าป่าพรุ ยังมีการแอบเผากันอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นฝีมือของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านระบุว่า เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ที่หวังผลในการทำงบประมาณฟื้นฟูป่าพรุ และวางแผนที่จะรับลูกจ้างป่าไม้ที่เป็นญาติของตัวเองเพิ่มขึ้น จึงสร้างสถานการณ์ไฟป่าขึ้นมา