นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบแนวไฟในพื้นที่พรุป่าสงวนแห่งชาติป่าดอนทราย-ป่าในกลอง ควบคุมไม่ให้คุกรุ่นขึ้นอีก หลังสามารถสกัดแนวไฟไว้ได้ เชื่อสาเหตุเกิดจากชาวบ้านลอบเผาเพื่อสร้างทุ่งหญ้าให้ฝูงวัวจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังพบความพยายามในการลอบเผาในหลายจุด
เจ้าหน้าที่จากสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเจ้าหน้าที่จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ้านบ่อล้อ เข้าตรวจสอบความเสียหายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอนทราย-ป่าในกลอง ในตำบลทางพูน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการตรวจพิกัดทางดาวเทียมเพื่อคำนวณพื้นที่ที่เสียหายทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุเดียวกันที่บินสำรวจจากเฮลิคอปเตอร์พบว่าได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแนวไฟป่าวานนี้ (19 มิ.ย.)
โดยการควบคุมพื้นที่นั้นหน่วยปฏิบัติการเสือไฟที่ได้กระจายกำลังเข้าสกัดแนวไฟตั้งแต่เกิดเหตุจนสามารถควบคุมพื้นที่ไว้ได้ แนวไฟหยุดการขยายตัวและเริ่มมอดดับลงคงทิ้งไว้แค่ซากเถ้าถ่านของต้นเสม็ด และพืชชั้นล่างของป่าพรุ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพื้นที่นั้นยังมีความพยายามลอบเผาในเขตพื้นที่ป่าพรุ สังเกตได้จากกลุ่มควันไฟที่ลอยขึ้นมาเป็นระยะจนต้องสั่งการให้ชุดเสือไฟที่กระจายอยู่รอบแนวป่าเข้าทำการตรวจสอบและทำการควบคุม
นายธีระวุฒิ นุ่นสังข์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ้านบ่อล้อ เปิดเผยว่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอนทราย-ป่าในกลอง ในที่เกิดเหตุจุดนี้ดูจากสภาพพื้นที่แล้วน่าเชื่อว่าการลอบเผาครั้งนี้เกิดจากชาวบ้านพยายามเผาพื้นที่ทำลายหญ้าเก่าเพื่อให้หญ้าระบัดใบขึ้นใหม่เลี้ยงฝูงวัวที่ปล่อยไว้จำนวนมากในพื้นที่นับร้อยๆ ตัวแล้วไม่สามารถควบคุมได้กลายเป็นไฟป่าลุกลามใหญ่โต
“การเผาเพื่อเอาพื้นที่ปลูกสวนปาล์มนั้นพบข้อมูลว่านายทุนรายใหญ่ๆ นั้นจะไม่เข้ามาเอาพื้นที่เช่นนี้เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ ถ้าจะมีนั้นเป็นนายทุนขนาดกลางและรายย่อยที่ลงขันเข้ามาจ้างเผาหรือซื้อปากเปล่ากันแล้วแบ่งพื้นที่กันปลูกสวนปาล์ม” หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ้านบ่อล้อกล่าว
ส่วนนายสุทิน ชำนาญแป้น ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเนื่องจากพระราชดำริ ระบุว่ามีการระดมเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟจากศูนย์ควบคุมไฟป่าภาคใต้ทั้งหมดกว่า 200 นายกระจายกำลังเข้าคุมพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งทั้งหมด และมีเจ้าหน้าที่ประจำหอสังเกตการณ์ไฟป่า หากพบกลุ่มควันไฟจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นเข้าทำการตรวจสอบทันที ซึ่งมีความพยายามในการเผาหลายจุด แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความถี่ในการตรวจตรามากขึ้นเพื่อสกัดการเผาป่า
ภาพรวมขณะนี้ถือว่าคลี่คลายลงยังมีไฟที่ต้องเร่งสกัดและควบคุมอยู่ในพื้นที่ป่าพรุแถบควนเลมอง อ.หัวไทร ป่าพรุท่าช้างข้าม อ.เชียรใหญ่ ป่าพรุควนเคร็ง อ.ชะอวด และเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบป่าพรุในเขตรอยต่อแถบ อ.ร่อนพิบูลย์ที่กำลังพบกลุ่มควัน