พัทลุง - สถานการณ์ไฟป่าพรุเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังคงมีไฟมุดใต้ดินเป็นบางจุดเจ้าหน้าที่เสือไฟยังคงเดินหน้าดับไฟอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ หน.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเผย ปัญหาบุกรุกที่ได้ประสานให้ที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิแล้ว 33 ฉบับ 1,269 ไร่ ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบอีกเพียบ และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายได้อีกหลายราย
สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน และสวนพฤกศาสตร์พัทลุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) ยังมีกลุ่มไฟใต้ดินที่ลุกไหม้ตามโคนต้นเสม็ดขาว ยังคงคุกรุ่นเป็นบางจุด และเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟยังคงเดินหน้าดับไฟกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมไฟใต้ดินได้ทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่ฝนยังไม่ตกลงมา แม้กลุ่มฝนจะมืดครึ้มก็ตาม แต่กระแสลมได้พัดพากลุ่มเมฆหายไปทำให้อากาศยังคงร้อน เหมือนทุกวัน
ในขณะที่ชุดเฉพาะกิจเฝ้าระวังรอบๆ พื้นที่ป่าพรุทะเลน้อย ได้ลาดตระเวนพบว่า ได้มีชาวบ้านแอบนำแร้วเพื่อดักจับนกเป็นจำนวนมากวางเรียงรายรอบๆ พื้นที่ที่นกน้ำออกมาหากิน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บ และทำลาย เพื่อปกป้องชีวิตนกน้ำ นกประจำถิ่นที่เหลืออยู่ในพื้นที่
ด้านนายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านบุกรุกที่สงวนในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยว่า ปัญหาการรุกที่ก็มีต่อเนื่องมาแล้วหลายปี และขณะนี้ตรวจสอบและแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกที่สงวนและเปลี่ยนสภาพป่า แต่ที่ไม่สามารถตรวจยึดที่คืนได้มากนักนั้น เพราะผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดินได้มีการแสดงเอกสารเป็น น.ส.3 ก และ ส.ค.1 ทางเขตก็ต้องส่งเอกสารให้สำนักงานที่ดินตรวจสอบว่าเอกสารได้มาโดยชอบหรือไม่
ที่ผ่านมา เขตห้ามล่าฯ ได้ประสานให้ที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิได้แล้ว 33 ฉบับ จากที่ดิน 1,269 ไร่ และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกจำนวน 606 ฉบับ อยู่ระหว่างเพิกถอน 21 ฉบับ และกำลังส่งเรื่องให้กรมอุทยานฯ ประสานกับกรมที่ดินเพิกถอนอีก 49 ฉบับ รวมพื้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ 2,000 กว่าไร่ และที่คดีถึงที่สุดแล้วจำนวน 10 ราย นอกจากนี้ ทางเขตห้ามล่าฯ ยังได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากผู้บุกรุกเปลี่ยนสภาพป่าจำนวน 99 คดี โดยเฉพาะรายที่คดีถึงที่สุดแล้ว บางรายถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายสูงถึง 20 ล้านบาท และส่วนหนึ่งก็ได้จ่ายเงินแล้ว
สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน และสวนพฤกศาสตร์พัทลุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) ยังมีกลุ่มไฟใต้ดินที่ลุกไหม้ตามโคนต้นเสม็ดขาว ยังคงคุกรุ่นเป็นบางจุด และเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟยังคงเดินหน้าดับไฟกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมไฟใต้ดินได้ทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่ฝนยังไม่ตกลงมา แม้กลุ่มฝนจะมืดครึ้มก็ตาม แต่กระแสลมได้พัดพากลุ่มเมฆหายไปทำให้อากาศยังคงร้อน เหมือนทุกวัน
ในขณะที่ชุดเฉพาะกิจเฝ้าระวังรอบๆ พื้นที่ป่าพรุทะเลน้อย ได้ลาดตระเวนพบว่า ได้มีชาวบ้านแอบนำแร้วเพื่อดักจับนกเป็นจำนวนมากวางเรียงรายรอบๆ พื้นที่ที่นกน้ำออกมาหากิน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บ และทำลาย เพื่อปกป้องชีวิตนกน้ำ นกประจำถิ่นที่เหลืออยู่ในพื้นที่
ด้านนายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านบุกรุกที่สงวนในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยว่า ปัญหาการรุกที่ก็มีต่อเนื่องมาแล้วหลายปี และขณะนี้ตรวจสอบและแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกที่สงวนและเปลี่ยนสภาพป่า แต่ที่ไม่สามารถตรวจยึดที่คืนได้มากนักนั้น เพราะผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดินได้มีการแสดงเอกสารเป็น น.ส.3 ก และ ส.ค.1 ทางเขตก็ต้องส่งเอกสารให้สำนักงานที่ดินตรวจสอบว่าเอกสารได้มาโดยชอบหรือไม่
ที่ผ่านมา เขตห้ามล่าฯ ได้ประสานให้ที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิได้แล้ว 33 ฉบับ จากที่ดิน 1,269 ไร่ และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกจำนวน 606 ฉบับ อยู่ระหว่างเพิกถอน 21 ฉบับ และกำลังส่งเรื่องให้กรมอุทยานฯ ประสานกับกรมที่ดินเพิกถอนอีก 49 ฉบับ รวมพื้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ 2,000 กว่าไร่ และที่คดีถึงที่สุดแล้วจำนวน 10 ราย นอกจากนี้ ทางเขตห้ามล่าฯ ยังได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากผู้บุกรุกเปลี่ยนสภาพป่าจำนวน 99 คดี โดยเฉพาะรายที่คดีถึงที่สุดแล้ว บางรายถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายสูงถึง 20 ล้านบาท และส่วนหนึ่งก็ได้จ่ายเงินแล้ว