xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยเสือไฟกับภารกิจดับไฟป่าพรุควนเคร็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงาน...ศูนย์ข่าวหาดใหญ่

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหน่วยเสือไฟจากจังหวัดแพร่ กำลังช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากเกิดไฟไหม้มาอย่างต่อเนื่องในระลอกที่ 2 นานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากยังมีมือดีลักลอบเข้าไปจุดไฟอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุไฟไหม้ มีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกว่า 300 นาย แต่ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถควบคุมไฟได้



 
ซึ่งปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่คือ ปริมาณน้ำในป่าพรุมีจำนวนน้อยมาก และแหล่งน้ำอยู่ไกลจากจุดที่เกิดไฟไหม้ บวกกับเครื่องมือที่มีต้องใช้อย่างจำกัด มีเพียงเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก และสายยางที่ยาวเพียงไม่กี่เมตร และเมื่อขุดเจาะหาน้ำพบว่า น้ำอยู่ลึกกว่าผิวดินกว่า 50 เซนติเมตร ส่วนหนึ่งเกิดจากชาวบ้านสูบน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรหลังจากในพื้นที่มีการปลูกปาล์มเพิ่มมากขึ้น
นายกุ่ย จุ่มป๋าหล้า หัวหน้าชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ประจำศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าแพร่
 
นายกุ่ย จุ่มป๋าหล้า หัวหน้าชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ประจำศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าแพร่ กล่าวว่า ปัญหาที่พบหลังจากลงมาปฏิบัติภารกิจคือ เรื่องน้ำ เพราะปกติในป่าพรุแบบนี้เราขุดก็จะเจอน้ำก็จะใช้ดับได้ง่าย แต่ที่นี่น้ำขาดแคลนก็ทำให้ดับไฟไม่ทัน และอีกอย่าง ข้างบนรู้สึกว่าจะแห้งด้วย ไฟไปไวมาก และลมแรงด้วยเป็นอุปสรรคอีกอย่างในการปฏิบัติงาน ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ เพราะต้องทำไปเรื่อยๆ จนสุดความสามารถจึงจะบอกว่าควบคุมไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะควบคุมได้ไหม แต่ก็พยายามจะทำให้ได้ดีที่สุด

 
ด้าน ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณรอบๆ ป่าพรุควรเคร็ง ได้ระดมกำลังเข้ามาช่วยดับไฟ นายสมบัติ มากจันทร์ สมาชิก อบต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ เล่าว่า ชาวบ้านได้เฝ้าระวังไฟป่ากันมาตั้งวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก็เป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว โดยได้มีการเตรียมเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ ถังน้ำ เราจะพึ่งเจ้าหน้าไฟป่าอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะพวกเขาก็มีงานเยอะ ก็ต้องพึ่งตนเองด้วย เราก็ได้ระดมกันมาเกือบทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ผลัดกันวิ่งช่วยดับไฟ ไฟมาจากฝั่งไหนก็แห่กันไฟช่วยกันดับ
เสือไฟกำลังช่วยกันขุดดินซึ่งต้องขุดลงไปลึก 50 ซม.ถึงจะเจอน้ำ
 
ถึงแม้ชาวบ้านจะช่วยกันเฝ้าระวัง แต่ก็มีสวนปาล์ม และสวนยางได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบางพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำก็ต้องปล่อยให้ไฟลุกไหม้ไปต่อหน้าต่อตา ทั้งนี้ จากที่ชาวบ้านต้องประสบกับปัญหาไฟไหม้ป่าพรุมาหลายครั้ง ก็ได้มีการเสนอแนวทางป้องกันว่า ควรจะทำการขุดคลอง หรือล่องน้ำให้รอบป่าพรุเพื่อจะได้เป็นแนวป้องกันไฟป่าพรุได้

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุไฟไหม้ป่าพรุ คือ กลุ่มชาวบ้านที่ยึดอาชีพตัดต้นกระจูดขาย หรือนำมาแปรูรูปเป็นเครื่องจักสาน เมื่อป่าพรุถูกทำลายก็ไม่ต่างจากถูกทุบหม้อข้าวนั่นเอง



กำลังโหลดความคิดเห็น