xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 4 ตรวจเหตุคาร์บอมบ์ ซี.เอส.ปัตตานี ตร.เผย CCTV จับภาพคนร้ายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - แม่ทัพภาค 4 ควงเลขาฯ ศอ.บต.ตรวจความเสียหายโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ยันจะยับยั้งกลุ่มสุดโต่งทางความคิดทุกวิถีทาง ขณะเดียวกัน ตร.เผยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ คาดไม่นานรู้ตัวแน่ชัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (1 ส.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำเภอการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เดินทางมาตรวจสอบ และให้กำลังเจ้าของ และพนักงานโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์จนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมี นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี และเป็นเจ้าของโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี ให้การต้อนรับ พร้อมกับรายงานถึงความเสียหายของโรงแรมหลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์

บรรยากาศโดยทั่วไปที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี เงียบเหงาลงไปจากเดิมมาก โดยในช่วงเช้ามีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่เข้ามาตรวจดูสภาพความเสียหาย และให้กำลังใจพนักงานของโรงแรม ขณะเดียวกัน พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็เข้ามาทำความสะอาด และตรวจดูสภาพความเสียหาย

โดยพบว่า แรงระเบิดของรถยนต์คาร์บอมบ์ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าเกิดการระเบิด และผนังอาคารแตกร้าว ห้องครัว และห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ด้านล่างเสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้ ห้องพักเลขที่ 718 และห้องประชุมเล็กชั้น 8 ได้รับความเสียหายทั้งหมด กระจกหน้าต่างโรงแรมแตกเกือบทุกห้อง ซึ่งพนักงาน และประชาชนต่างช่วยกันจัดเก็บสิ่งของที่เสียหายออกจากตัวอาคาร ทั้งนี้ โรงแรมได้ปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อรอการซ่อมแซม โดยเฉพาะไฟฟ้าที่ดับตั้งแต่เกิดเหตุนั้น ขณะที่การไฟฟ้าได้เข้ามาแก้ไขแล้ว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จ.ปัตตานี ได้เข้ามาตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานอีกครั้ง โดยพบว่า ชิ้นส่วนถังดับเพลิง ชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด และชิ้นส่วนวิทยุสื่อสารซึ่งเป็นตัวจุดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ สำหรับรถยนต์คันเกิดเหตุนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า คนร้ายได้ติดป้ายทะเบียนปลอม เป็น บฉ 8515 ปัตตานี และจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากถังเชื้อเพลิง และถังเก็บแก๊สเพียง 3 เมตร ซึ่งโชคดีที่ไม่เกิดระเบิดขึ้น หากเกิดระเบิดอาจจะสร้างความเสียหาย และสูญเสียอย่างหนักแน่นอน

ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ปัตตานี ก็ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมที่ติดตั้งไว้ด้านหลัง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 3 เมตร แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถดูได้ เนื่องจากได้เสียไปเมื่อเวลา 22.30 น. ของคืนวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุจงใจให้เสียในช่วงก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน ซึ่งจะได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยขณะเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า หลังเกิดเหตุ ตนก็สั่งการให้ในพื้นที่ตั้งจุดตรวจเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุเพียงจุดเดียว คนร้ายประกอบระเบิดวางมาในรถยนต์ และจอดไว้ที่หม้อแปลงไฟฟ้าของโรงแรมเพื่อให้ระเบิด โชคดีที่ความรุนแรงน้อย เสียหายไม่มาก

และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูพฤติกรรมของคนร้ายพบว่า คนร้ายขับรถยนต์ซุกระเบิดมาจอดไว้ช่วงเวลา 18.55 น. เพียงไม่ถึง 2 นาที หลังจากนั้น ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น ส่วนเส้นทางที่คนร้ายเข้ามาเป็นทางลัดไม่ผ่านจุดตรวจ แต่ก็สามารถจับภาพคนร้ายเพื่อขยายผลได้ คาดว่าไม่นานจะรู้ตัวผู้ก่อเหตุแน่ชัด

อย่างไรก็ตาม พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวยันยันว่า เจ้าหน้าที่จะยังคงดำเนินการให้เกิดสันติสุขตามยุทธศาสตร์ภายใต้กฎหมาย และจะยังทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งกลุ่มสุดโต่งทางความคิด ที่จะทำให้พี่น้องมุสลิมร้อยละ 95 ในพื้นที่เกิดความเสียหาย แทนที่จะช่วยส่งเสริมด้านศาสนา กลับทำลายศาสนาจนเสียหาย และเดือนรอมฎอนนี้เป็นเดือนแห่งการทำความดี เดือนที่มีความศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ตนขอส่งข่าวไปยังองค์กรลับที่กำลังจ้องจะก่อเหตุว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นไม่ถูกต้อง เป็นความรุนแรง และตนจะสนับสนุนการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกเรื่อง ยกเว้นการต่อสู้ด้วยอาวุธ






กำลังโหลดความคิดเห็น