ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “ประพันธ์ คูณมี” เหน็บพรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ ใต้รัก ปชป. เมื่อมีโอกาสบริหารประเทศกลับอ่อนแอ เมื่อเป็นฝ่ายค้านกลับถูกรัฐบาลซักฟอก ยังไม่สายหากกลับมาหล่อหลอมผนึกกำลังกับพันธมิตรฯ ดับอายุขัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทวงคืนผลประโยชน์ของชาติ และร่วมปฏิรูปประเทศไทย
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ห้องทักษิณาลัย โรงแรมสยามธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พันธมิตรฯสุราษฎร์ฯ ร่วมจัดเวทีเสวนา เดินหน้ารวมพลัง ปฏิรูปประเทศไทย โดย นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่น 2 กล่าวว่า มา จ.สุราษฎร์ฯ เป็นถิ่นของนักการเมืองใหญ่หลายท่าน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาร่วม 20 ปี เพิ่งจะลาออกมาเมื่อไม่นานนี้เอง ที่พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์เมื่อในอดีตที่ผ่านมา ก็พูดถึงแต่ในเรื่องดี วิพากษ์วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง คือ มีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุง และวันนี้ ผลที่วิพากษ์วิจารณ์ก็มีให้เห็นปรากฏอยู่ พรรค ปชป.ควรจะเป็นเนื้อเดียวกันกับ พธม.ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณ แต่จนถึงวันนี้ ก็ไม่สามารถหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้
พี่น้องชาวใต้คือ กำลังหลักในการต่อสู้ของพันธมิตรฯ และพันธมิตรฯ ทั่วประเทศเราก็ร่วมต่อสู้การเมืองโกง และนักการเมืองทุจริตขายชาติ และหาก พรรค ปชป.จะมาร่วมต่อสู้เราก็คือพี่น้องกัน แล้วที่ผ่านมา ก็ได้เห็นแล้วว่าท่านสามารถทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่ ปชป.ถ้าจะเป็นพรรคที่จะครองหัวใจคนใต้ และคนทั้งประเทศได้ต้องปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ อย่างที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เคยพูดว่า ต้องมีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เพราะฉะนั้น ถ้าให้การปฏิรูปการเมืองสำเร็จต้องเชิญ นายบัญญัติ มาเป็นแกนนำพันธมิตรคนที่ 5 แทน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่โดน ป.ป.ช.ชี้มูล ต้องโดนเพิกถอนทางการเมือง 5 ปี ก็รู้สึกเสียใจ และเสียดาย เพราะในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ถ้าไล่พวกทักษิณ และกำจัดเสื้อแดงที่เผาบ้านเผาเมืองให้เด็ดขาด ตอนนี้ก็คงไม่เป็นอย่างนี้ และที่โดนในวันนี้ก็พวก ส.ส.เสื้อแดงที่ไปฟ้องให้ นายสุเทพต้องโดน ป.ป.ช.ชี้มูล เป็นฝ่ายค้านแต่ถูกฝ่ายรัฐบาลตรวจสอบ
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ก็ได้บอกแก่นายสุเทพแล้ว ในวันที่พันธมิตรฯ เลิกชุมนุมให้มาร่วมกับพันธมิตรฯ อย่าทอดทิ้ง เพราะ ปชป.ขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้ เพราะการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ชักชวนให้มารู้จักกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่เอา แต่ไปหลงเสน่ห์ปากห้อยมากกว่า ถ้าคุณเป็นมิตรกับผม มีหรือพี่น้องจะทอดทิ้ง นักการเมืองอย่างพวกท่านที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหลกับประชาชน ถ้าเชื่อในแนวทางนี้ประเทศเราไม่ตกต่ำ และไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
พรรคเพื่อไทย พยายามสร้างเครือข่ายโดยการเอาเงินไปตั้งกองทุนต่างๆ ทั้งกองทุน สตรี หรือแม้แต่ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ พวกมันซื้อหมดแล้ว ตอนนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามวิ่งไปอุ้ม ไปประคองนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จนเธอไม่มีเวลาว่างสำหรับประชาชนแต่มีเวลาในการท่องเที่ยว และชอปปิ้ง เพราะพยายามจะประคับประคองให้รัฐบาลอยู่ได้นานที่สุด
“พรรค ปชป. ต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่ พวกเราพันธมิตรฯ ก็ต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่เช่นกัน ซึ่งยุทธวิธีของเราคือ ทำให้รัฐบาลมันอยู่ได้สั้นที่สุด ฝ่ายค้านต้องเล่นงานรัฐบาล มีเรื่องโกงหลายอย่างทำไมไม่เอามาเปิดโปงให้ประชาชนได้รู้บ้าง ดีกว่ามาเดินสายตั้งเวทีอยู่แต่ในบ้านตัวเอง แต่ไม่ยอมไปตั้งเวทีที่ทางภาคอีสาน ภาคเหนือบ้าง ถ้าคิดว่าใจไม่ถึง ใจไม่กล้าก็เปลี่ยนหัวหน้าพรรคเสีย เอาที่ใจถึง กล้าสู้ และเข้าหาปะชาชน จึงจะสู้กับเขาได้”
นายประพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า เรื่องใหญ่ที่สุดมีคนมาถามว่า เราต้องเป็นพันธมิตรฯ แนวร่วมกับ พรรค ปชป. ผมนะเห็นด้วย เพราะพี่น้องประชาชน รัก ปชป.ปานจะกลืนกินอยู่แล้ว เพื่อร่วมสู้กับจอมโจรที่อยู่ต่างประเทศ แต่ปัญหาคือ เมื่อสู้กันที่ไร ปชป.อยู่ข้างหลังทุกที ทำไมไม่ออกมาสู้กับพันธมิตรฯ แต่พอได้อำนาจไปแล้วปล่อยให้ผีดิบกลับมาเล่นงานพวกเรา และกลับมาปล้นประเทศอีก
หากพรรค ปชป. จะกลับมาร่วมกับพันธิตรฯ อีก คราวนี้ต้องมาทั้งหัวใจ มาทั้งชีวิตจิตใจอย่ามาแอบ พวกเราพร้อมต้อนรับ แต่อย่ามาหลอกประชาชน พิสูจน์ได้ด้วยเรื่องแหล่งพลังงานที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ ของประชาชน จะสู้อย่างไรให้แหล่งพลังงานเหล่านี้กลับมาเป็นของประชาชน คุณต้องออกมาร่วมสู้กับประชาชน ต่อเรื่องนี้ท่านจะมีข้อเสนออย่างไรให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญจะแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมนี้หรือไม่ เพราะ พ.ร.บ.นี้คือใบอนุญาตที่ปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาปล้นประเทศ ถ้า ปชป.เป็นพรรคการเมืองก็มีสิทธิเสนอให้ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ได้
“พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 อยู่ในยุคที่อเมริกาเข้ามามีอำนาจ ทั้งฉบับมันเอื้อต่อผลประโยชน์ต่างชาติทั้งสิ้น ปัญหาการปิโตรเลียม เราให้สัมปทานบริษัทน้ำมันไป 20 ปี และต่อได้อีก 10 ปี สัมปทานเป็นของบริษัทต่างชาติ เหตุเพราะ พ.ร.บ.กำหนดให้ผลประโยชน์ต่อคนไทยเพียง 18 เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมไม่แก้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งๆ ที่ต่างประเทศได้ผลประโยชน์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ นี่มันควายเขียนกฎหมายชัดๆ ผ่านมากี่ปี่ กี่รัฐบาลแล้วไม่มีใครเคยคิดจะแก้กฎหมายฉบับนี้เลย”
นายประพันธ์ กล่าวว่า เป็นเพราะคนไทยโง่ หรือนักการเมืองชั่ว แต่ขอตอบเลยว่า นักการเมืองชั่วมากกว่า ที่ไม่คิดปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งถ้าเรามีนักการเมืองที่ไม่โง่ไม่ชั่วพวกเราไม่จน ประเทศของเราไม่จน เพราะผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานมีมูลค่ามหาศาล วันนี้ทักษิณต้องการจะฮุบแหล่งพลังงานเหล่านี้จึงยื้อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อยู่ให้ได้นานที่สุด ทักษิณไม่ต้องเข้ามาในประเทศก็สามารถสั่งทุกอย่างได้ ไม่ว่าใครต้องการตำแหน่งใด เพียงแค่บินไปหาทักษิณ ก็สามารถแต่งตั้งให้ได้หมด เพราะมีรัฐบาลยิงลักษณ์เป็นหุ่นเชิดอยู่ หากเราต้องการเอาผลประโยชน์ของประเทศคืนมา เราต้องไล่รัฐบาลนี้ออกให้เร็วที่สุด
และความจำเป็นที่จะให้ประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนที่สุด แต่เราต้องสร้างพลังสามัคคีในหมู่ประชาชนให้กว้างใหญ่ไพศาล และต้องมีผู้นำที่กล้าหาญ มีความรู้ความสามารถ ต้องมีความเสียสละ และคนที่จะเสียสละได้ในตอนนี้ ผมมองเห็นอยู่คนเดียวเท่านั้น คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นอกจากท่านจะมีความกล้าแล้ว ผู้นำต้องมีธรรมะด้วย
ถ้าพรรค ปชป.จะสู้กับพรรคเสื้อแดง ต้องผนึกกำลังกับพันธมิตรฯ และขอเสนอให้ พล.ต.จำลองเป็นผู้นำในการปฏิรูปประเทศไทย ไม่ว่าจะเสื้อไหนกลุ่มไหน ก็มารวมพลังกันได้ ขจัดรัฐบาลชั่ว รัฐบาลโกง และทวงพลังงานของชาติกลับคืนมา เราต้องผนึกกำลังและสามัคคีกัน หากวันนี้ ปชป.จะกลับมารวมพลังกับพันธมิตรฯ ก็ยินดี ถ้าไม่สามัคคีกับพี่น้องประชาชนก็ไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้ พันธมิตรฯ เป็นกำลังหลักสำคัญ เพราะพวกเราพร้อมที่จะจับมือสามัคคีกับทุกคนทุกฝ่าย เราจำเป็นต้องเปิดใจ และลืมอดีต เราต้องเดินหน้าเพื่อทวงประเทศไทยของเรา