“ก่อแก้ว” หุบปากแก้ รธน. อ้างไม่อยากมีวิวาทะ โวยผู้ตรวจฯ ฟัน “เต้น” ผู้ปกป้อง ปชต.

โจกแดงเงียบ “โทรโข่งค้อนปลอม” ไล่พิจารณาตัวเอง อ้างไม่อยากวิวาทะ เลิกจ้อแก้ รธน. ชี้โพรงแดงฟ้องศาล รธน.ยุบประชาธิปัตย์ล้มล้างรัฐ โวยผู้ตรวจฯ ชี้นายกฯ ตั้ง “อำมาตย์เต้น” ขัดจริยธรรม โอดถูกยัดข้อหาก่อการร้ายทั้งที่ปกป้องประชาธิปไตย ถามทำไมไม่สอบ “มาร์ค” บ้าง ทำใจดียังไม่คิดถอดเหตุไร้อำนาจเหมือนองค์กรอื่น

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงถึงกรณีที่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้ตนพิจารณาตัวเองหากไม่เห็นด้วยต่อมติพรรคในการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ว่า ตนพยายามเปิดใจกว้างรับฟัง ไม่ถือเป็นความขัดแย้งในการทำงานร่วมกันของคนในพรรค และเห็นด้วยกับการทำหน้าที่ของนายวัฒนาว่าถูกต้องแล้ว หากไม่ออกมาพูดอาจจะถูกตำหนิได้ ดังนั้น ตนไม่อยากมีวิวาทะกับนายวัฒนา ส่วนการพิจารณาเรื่องรัฐธรรมนูญตนไม่ออกมาพูดแล้วต้องรอดูการวินิจของศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะมีการโหวตหรือไม่ในสมัยประชุมสภาฯหน้า และยืนยันจะทำตามมติพรรค

นายก่อแก้วยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องโดยตรงจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่าตนไม่เห็นด้วยที่ศาลรับคำร้องดังกล่าว เนื่องจากการที่ศาลรับเพราะความจำยอมเนื่องจากถูกมองว่าสองมาตรฐาน เพราะก่อนหน้านี้เคยรับคำร้องโดยตรงจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม ส.ว. และพันธมิตรฯ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของศาลในอนาคตจะส่งผลให้ประชาชนยื่นร้องยุบพรรคต่อศาลจำนวนมาก เช่นกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีปราศรัยในหลายพื้นที่ร่วมเวทีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ประชาชนอาจจะมีการหยิบยกคำปราศรัยว่าจะมีการล้มล้างรัฐบาลหรือไม่ การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญทำให้เกิดมาตรฐานบิดเบี้ยว

แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวด้วยว่า กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยว่าการที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.เกษตรฯ ว่าขัดต่อจริยธรรมการแต่งตั้งข้ารากชารเมืองนั้น ตนไม่เห็นด้วยเพราะคำวินิจฉัยของผู้ตราจการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ที่ระบุว่าผู้ที่มีคดีอาญาต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และกรณีของนายณัฐวุฒิถือว่าไม่มีความผิดเพราะออกมาชุมกับคนเสื้อแดงเพื่อปกป้องประชาธิปไตย แต่กลับถูกยัดข้อหาก่อการร้าย ทั้งนี้ ตนอยากให้สังคมเปรียบเทียบกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้แต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.ต่างประเทศ ทั้งที่มีคดียึดสนามบิน และบุกรุกทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ที่สั่งสลายการชุมนุมมีผู้เสียชีวิตเป็นร้อย อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจเข้าแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ จึงอยากถามทั้ง 3 กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินเหตุใดจึงไม่ตรวจสอบจริยธรรม

“อยากเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ถ้าท่านดำเนินการกับผู้ปกป้องประชาธิปไตย แต่ไม่ดำเนินการกับผู้ฝักฝ่ายเผด็จการ ทำให้คนไทยอดคิดไม่ได้ว่าท่านกำลังเหยียบย่ำฝ่ายปกป้องฝ่ายที่ปกป้องประชาธิปไตย แต่ไปชื่นชมผู้ฝักฝ่ายเผด็จการหรือไม่ เราเป็นห่วงว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สังคมมีปัญหา เพราะองค์กรกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงไม่อยากองค์กรต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือ”

นายก่อแก้วกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คนเสื้อแดงยังไม่คิดเรื่องถอดถอนผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะยังใหม่อยู่ ให้เวลาปรับกระบวนทัศน์ และยังเห็นว่ามีบทบาทแค่ตรวจสอบแต่ไม่มีอำนาจดำเนินการกับหน่วยงานที่ท่านได้เสนอแนะไป ไม่เหมือนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและศาลรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจล้นฟ้า

นายก่อแก้วกล่าวว่า ในช่วงฟุตบอลยุโร 2012 อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่านายอภิสิทธิ์นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และผู้ใหญ่ในพรรค เวลาดูบอลให้ย้อนกลับมาคิดถึงตัวเองว่า บอลยูโรมีแข่งทุก 4 ปี และเมื่อทีมที่แพ้ก็จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ใหม่ให้มีโอกาสชนะในการแข่งขันครั้งต่อไป โดยนักเตะแต่ละคนก็ทำตามกฎ กติกา มารยาท ไม่มีเล่นใต้ดอน หากแพ้ก็ไปแข่งกันใหม่ใน 4 ปีข้างหน้า ไม่มีทีมใดที่เรียกแฟนบอลไปล้มผลการแข่งขัน นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญใหดูกรรมการที่ตัดสินการแข่งขันว่า เขามีความเป็นกลางอย่างไร เพราะหากไม่เป็นกลางก็จะถูกผู้ชมโห่ไล่ ขว้างปาสิ่งของและแฟ้มได้ รวมทั้งกองเชียร์ถ้าทีมที่ตัวเองเชียร์ไม่ชนะก็ไม่ต้องไปดึงแฟนบอลมาล้มการตัดสิน รอให้ 4 ปี ค่อยมาว่ากันใหม่