00 ในที่สุดก็กลายเป็น “แม่นกขมิ้น” ไปแล้วสำหรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับการเดินสายตรวจความพร้อมรับมือน้ำ ทั้งปลายน้ำ กลางน้ำ เรื่อยไปจนถึงต้นน้ำ จบลงที่เชียงใหม่บ้านเกิด ซึ่งงานแบบนี้ถือว่าเป็นงานหมูๆ เป็นการสร้างภาพสร้างความประทับใจกับชาวบ้านตามรายทาง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นแค่เรื่อง “ฉาบฉวย” ไปรับรู้แต่เรื่อง“ผักชีโรยหน้า” ให้ไปเห็นในสิ่งที่ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่ชาวบ้านเดือดร้อนก็คือเรื่องความช่วยเหลือเยียวยาจากผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ยังไร้ระเบียบ ไม่มีความยุติธรรม มันสะท้อนถึงความไม่เอาไหนของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งก็คือรัฐบาล และนายกฯในฐานะผู้นำสูงสุดนั่นแหละ
00 บ้านใครบ้านมันก็แล้วกัน สำหรับ ส.ส.และ ส.ว.หลังจากปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ 19 มิ.ย.หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมาเจอศึกใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งเรื่องแก้รธน. และ พ.ร.บ.ล้างผิด ที่ยังค้างคารอวันปะทุรอบใหม่ อย่างไรก็ดี น่าจับตาก็คือการ “จำใจถอย” เที่ยวนี้ของ ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นการถอยห่างออกไปเรื่อยๆ หรือเปล่า เพราะนับจากนี้ไปถือว่าชาวบ้านเริ่ม “ตาสว่าง” และรำคาญกับความเห็นแก่ตัวมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนเสื้อแดงด้วยกันเอง ที่เริ่มตระหนักแล้วว่า มันไม่เห็นจะ “แตกต่างตรงไหน” ตรงกันข้ามฝีมือการบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อเทียบกับรัฐบาลมาร์ค ตรงกันข้ามด้วยปัจจัยที่พร้อมกว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ยิ่งอยู่นานก็เหมือนกับการประจานตัวเองไปเรื่อยๆ
00 ที่น่าจับตาก็คือ การประกาศเดินสายตั้งเวที “ผ่าความจริง” ทั่วประเทศของประชาธิปัตย์ นำทีมโดย “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดโปงแม้ว ระหว่างที่มีการปิดสมัยประชุม ที่ผ่านมา ถล่มมาแล้ว 2-3 ครั้ง เริ่มจากภาคใต้ แล้วย้ายมากรุงเทพฯ คราวต่อไปวันที่ 15 มิ.ย.นัดบุกถิ่น “มีนบุรี” ซึ่งถือว่าเป็นฐานกำลังหลักย่านชานเมืองของเพื่อไทย ที่มีขุนพลคือ วิชาญ มีนชัยนันท์ งานนี้รับรองว่ามีความหมายทางการเมือง เป็นการเปิดเกมรุกกลับแบบ “ย้อนศร” ไม่ยอมตั้งรับเป็นเป้านิ่ง
00 ที่สำคัญเป็นการย้ายเวทีออกมา “นอกสภา” เล่นกันเต็มพิกัด มีทุกระดับ ตั้งแต่ “ขาใหญ่” เช่น ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน สุเทพ เทือกสุบรรณ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผนึกกำลังกันแน่น รับรองว่าไม่ธรรมดา ขณะที่ใน “ทีวีสีฟ้า” ก็มี “สามเกลอสายล่อฟ้า” เปิดคลิปป่วนแม้วและเครือข่ายทุกวัน มันก็ต้องปวดหัวเหมือนกันแหละน่า
00 นาทีนี้กลายเป็นว่า ข่าวที่ ยิ่งลักษณ์ นั่งควบรมว.กลาโหม ยังแรง นั่นก็หมายความว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ก็ต้องพ้นไปนะซี ถ้าผลออกมาอย่างว่าจริง มันก็น่าคิด ว่า “เข้ากับใครไม่ได้” จริงๆ และต้องมองย้อนไปเมื่อครั้งที่นั่งเก้าอี้ รมว.คมนาคม ก็เหยียบหัวแม่เท้ากับ ชัจจ์ กุลดิลก รมช. แต่ก็แก้ปัญหาด้วยการโยกมาที่ใหม่ แต่ถ้าเกิดซ้ำอีก มันก็มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี มันก็ยังเป็นแค่ข่าว ยังไม่เกิดขึ้นจริง
00 แต่สำหรับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ นี่สิ ต้องบอกว่า “โคม่า” หมดอนาคตทางการเมือง หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร้ายแรงจาก “กรรม”ในอดีตเรื่อง “ธรณีสงฆ์อัลไพน์” แม้ในทางกม.โดยตรงไม่กระทบกับเก้าอี้รมต. แต่คำถามเรื่องจริยธรรมจากสังคมมันจะดังสะท้อนอยู่ทุกวัน และที่ผสมโรงลึกๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พวกเดียวกันนั่นแหละ แต่บอกไว้ก่อนว่าอย่าหันมาทาง “เฉลิม อยู่บำรุง” เด็ดขาด เพราะเขาจะบอกว่า “ฝนไม่ตก อย่าเพิ่งกางร่ม” แม่นบ่ !!
00 บ้านใครบ้านมันก็แล้วกัน สำหรับ ส.ส.และ ส.ว.หลังจากปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ 19 มิ.ย.หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมาเจอศึกใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งเรื่องแก้รธน. และ พ.ร.บ.ล้างผิด ที่ยังค้างคารอวันปะทุรอบใหม่ อย่างไรก็ดี น่าจับตาก็คือการ “จำใจถอย” เที่ยวนี้ของ ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นการถอยห่างออกไปเรื่อยๆ หรือเปล่า เพราะนับจากนี้ไปถือว่าชาวบ้านเริ่ม “ตาสว่าง” และรำคาญกับความเห็นแก่ตัวมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนเสื้อแดงด้วยกันเอง ที่เริ่มตระหนักแล้วว่า มันไม่เห็นจะ “แตกต่างตรงไหน” ตรงกันข้ามฝีมือการบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อเทียบกับรัฐบาลมาร์ค ตรงกันข้ามด้วยปัจจัยที่พร้อมกว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ยิ่งอยู่นานก็เหมือนกับการประจานตัวเองไปเรื่อยๆ
00 ที่น่าจับตาก็คือ การประกาศเดินสายตั้งเวที “ผ่าความจริง” ทั่วประเทศของประชาธิปัตย์ นำทีมโดย “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดโปงแม้ว ระหว่างที่มีการปิดสมัยประชุม ที่ผ่านมา ถล่มมาแล้ว 2-3 ครั้ง เริ่มจากภาคใต้ แล้วย้ายมากรุงเทพฯ คราวต่อไปวันที่ 15 มิ.ย.นัดบุกถิ่น “มีนบุรี” ซึ่งถือว่าเป็นฐานกำลังหลักย่านชานเมืองของเพื่อไทย ที่มีขุนพลคือ วิชาญ มีนชัยนันท์ งานนี้รับรองว่ามีความหมายทางการเมือง เป็นการเปิดเกมรุกกลับแบบ “ย้อนศร” ไม่ยอมตั้งรับเป็นเป้านิ่ง
00 ที่สำคัญเป็นการย้ายเวทีออกมา “นอกสภา” เล่นกันเต็มพิกัด มีทุกระดับ ตั้งแต่ “ขาใหญ่” เช่น ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน สุเทพ เทือกสุบรรณ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผนึกกำลังกันแน่น รับรองว่าไม่ธรรมดา ขณะที่ใน “ทีวีสีฟ้า” ก็มี “สามเกลอสายล่อฟ้า” เปิดคลิปป่วนแม้วและเครือข่ายทุกวัน มันก็ต้องปวดหัวเหมือนกันแหละน่า
00 นาทีนี้กลายเป็นว่า ข่าวที่ ยิ่งลักษณ์ นั่งควบรมว.กลาโหม ยังแรง นั่นก็หมายความว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ก็ต้องพ้นไปนะซี ถ้าผลออกมาอย่างว่าจริง มันก็น่าคิด ว่า “เข้ากับใครไม่ได้” จริงๆ และต้องมองย้อนไปเมื่อครั้งที่นั่งเก้าอี้ รมว.คมนาคม ก็เหยียบหัวแม่เท้ากับ ชัจจ์ กุลดิลก รมช. แต่ก็แก้ปัญหาด้วยการโยกมาที่ใหม่ แต่ถ้าเกิดซ้ำอีก มันก็มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี มันก็ยังเป็นแค่ข่าว ยังไม่เกิดขึ้นจริง
00 แต่สำหรับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ นี่สิ ต้องบอกว่า “โคม่า” หมดอนาคตทางการเมือง หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร้ายแรงจาก “กรรม”ในอดีตเรื่อง “ธรณีสงฆ์อัลไพน์” แม้ในทางกม.โดยตรงไม่กระทบกับเก้าอี้รมต. แต่คำถามเรื่องจริยธรรมจากสังคมมันจะดังสะท้อนอยู่ทุกวัน และที่ผสมโรงลึกๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พวกเดียวกันนั่นแหละ แต่บอกไว้ก่อนว่าอย่าหันมาทาง “เฉลิม อยู่บำรุง” เด็ดขาด เพราะเขาจะบอกว่า “ฝนไม่ตก อย่าเพิ่งกางร่ม” แม่นบ่ !!