ศูนย์ข่าวภาคใต้ - พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เปิดเวทีเดินหน้ารวมพลัง ปฏิรูปประเทศไทย ที่ จ.สุราษฎร์ธานี อย่างเข้มข้น จวก “บิ๊กบัง” เสนอกฎหมายปรองดองเอง จนไฟลุกโชนร้อนแรง คิดจะหาทางให้อุณหภูมิลดลง แต่โง่คิดไม่ออกว่า แค่ถอนออกก็เย็นลงแล้ว เตือนรัฐบาลอย่าสนับสนุนคนทำลายชาติราชบัลลังก์ ประชุมสภาวันไหนเจอพันธมิตรฯ แน่
เวลา 13.00 น.วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ห้องทักษิณาลัย โรงแรมสยามธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ในเวทีเสวนาเดินหน้ารวมพลัง ปฏิรูประเทศไทย โดยมีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนักวิชาการมาร่วมให้ความรู้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ หลายท่านด้วยกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องพันธมิตรฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศมาร่วมรับฟังกันอย่างล้นหลาม ประเดิมเวทีคนแรกอย่างเข้มข้นโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การชุมนุม 193 วัน เราเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกได้ถึง 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนล้วนมาจากพรรคเดียวกันทั้งนั้น และเมื่อครั้งการชุมนุม 158 วัน เป็นการท้วงติง และคัดค้าน ทั้งๆ ที่พรรคนั้นเป็นพรรคของคนใต้ แต่คนใต้รักชาติมากกว่าจึงไปร่วมชุมนุมท้วงติงกับพันธมิตรฯ และในวันนี้ วิทยากรทั้งหมดที่มาจะมาให้คามรู้เกี่ยวกับเรื่องพลังงาน เพื่อบอกพี่น้องชาวใต้ว่าต้องเตรียมตัวกันอีกแล้ว หากต้องมีการชุมนุมใหญ่เพื่อเรียกร้องเอา ปตท.คืนมา พวกเราในฐานะที่เป็นภาคประชาชนเป็นเหมือนเสาหลักค้ำยัน ซึ่งเราไม่สามารถคาดหวังจากนักการเมืองได้ เราก็ต้องพร้อมที่จะออกมาต่อสู้กันอีกครั้ง
ทั้งนี้ จะขอย้ำถึงเรื่องที่จะมีการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปรองดอง อย่างเดียวก็แย่แล้ว ทำให้คนที่ติดคุก คนที่กำลังจะติดคุก คนที่ถูกยึดทรัพย์ หากกฎหมายปรองดองผ่านขึ้นมา คนพวกนี้หลุดพ้นหมด โดยเฉพาะคนที่ใส่ร้ายสถาบันทั้งที่ติดคุกแล้ว และกำลังติดคุกก็รอดหมดเช่นกัน พวกเราจะยอมไหม อยากจะย้ำยืนยันกับพี่น้อง กฎหมายปรองดองที่เขาเสนอเข้าไปนั้น ซึ่งตามกระบวนการแล้ว กฎหมายก่อนที่จะออกมาเป็นกฎหมายนั้น ต้องมีการร่างก่อน แล้วเข้าสภา ผ่านขั้นอีก 3 วะระ ถ้าสภาผ่าน ก็ต้องทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย จึงจะมีผลบังคับใช้ พวกเราพี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่ต่อต้านกฎหมายฉบับนี้เป็นเพราะผ่านการร่างมาแล้วเพียงแค่รอเข้าสภาอย่างเดียว
“ซึ่งเนื้อหาของกฎหมายปรองดอง คือ ให้บรรดาการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องการชุมนุมทางการเมือง หรือแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่ วันที่ 15 ก.ย.2548 ถึง 10 พ.ค. 2554 หากมีการกระทำใดที่เป็นความผิดทางกฎหมายให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดอีกต่อไป และให้ผู้กระทำความผิดนั้นพ้นจากการกระทำความผิด เพราะฉะนั้น บ้านเมืองหากไม่มีความยุติธรรมมันจะเป็นบ้านเมืองต่อไปไม่ได้ ถ้าออกมาเป็นกฎหมายเรายอมไม่ได้”
มีหนังสือพิมพ์ลงไว้ตัวโตเลย คำพูดของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในขณะที่มีการร่างกฎหมายปรองดอง พูดว่า “ผมคิดว่าในสภาก็ต้องมองอย่างที่ผมคิด เห็นจากท่านจำลองใครต่อใครออกมามันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่มองให้เห็นว่ายังร้อนอยู่ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้อุณหภูมินี้ลดลง” พล.ต.จำลองจึงบอกว่า “ก็แค่ถอนออกมันก็ไม่ร้อนแล้ว โง่อยู่ได้”
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ในประวัติศาสตร์การเมืองของไทยยังไม่เคยมีครั้งใดมีการทะเลาะกันในสภา มีคนไปกระชากเก้าอี้ประธานรัฐสภา เอาเอกสารขว้างหน้าสภา นี่ขนาดกฎหมายปรองดองยังไม่เกิด ในสภาก็มีการวิวาทกันอย่างนี้แล้ว ดีที่พี่น้องประชาชนติดตามข่าวการบ้านการเมืองอย่างกระชั้นชิด จึงได้ออกมาต่อต้านเรื่องกฎหมายปรองดอง และพันธมิตรฯ ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่า หากมีการนำเรื่องนี้เข้าสภา ก็จะออกมาชุมนุมอย่างแน่นอน แต่ในขณะนี้ยังเงียบอยู่ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ตกลงกันแล้วว่า มีการประชุมวันไหนเจอกันวันนั้นเลย พี่น้องพันธมิตรฯ พร้อมอยู่แล้วที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อความถูกต้องกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขอเตือนรัฐบาลว่า จะสนับสนุนการบ่อนทำลายชาติ และราชบัลลังก์ไม่ได้ เราเท่านั้นที่จะช่วยกันปกป้องประเทศชาติ และราชบัลลังก์ การชุมนุมที่ผ่านมาเราทำได้ตามความต้องการความมุ่งหมายทุกอย่าง มันต้องมีสักวันหนึ่งที่เราจะสามรถแก้ไขปัญหาทั้งหลายทั้งปวงนี้ให้หมดไปได้
สุดท้าย ฝากถึงพี่น้องชาวใต้ว่า พร้อมที่จัดงานในลักษณะนี้เมื่อไหร่ขอให้บอก นอกจากเราจะได้ความรู้กันแล้ว เราก็จะได้เจอกันด้วย บ้านเมืองจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และจะต้องดีขึ้นกว่านี้ ขอให้พี่น้องชาวสุราษฎร์ฯ และพี่น้องชาวใต้เป็นคนดีที่คอยปกป้องบ้านเมืองตลอดไป